เอเจนซีส์ - บริษัทผู้ผลิตเบียร์ไฮเนเก้นชื่อดังของเนเธอร์แลนด์ วันนี้ (10 ก.พ.) ประกาศปลดพนักงานออก 8,000 คน รวมไปถึงตำแหน่งงานในอังกฤษ เกิดขึ้นหลังยอดขายตกวูบช่วงระหว่างวิกฤตโควิด-19
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (10 ก.พ.) ว่า บริษัทเบียร์ไฮเนเก้นออกแถลงการณ์วันพุธ (10) ประกาศสั่งปลดพนักงานจำนวน 8,000 คนทั่วโลก และพบว่า การปลดจะเกิดขึ้นกับบางส่วนที่สำนักงานใหญ่ของเฮเนเก้นในเมืองอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์
ซีอีโอใหญเฮเนเก้น ดอล์ฟ ฟาน เดน บริงก์ (Dolf van den Brink) ได้เคยกล่าวว่า ปี 2020 ถือเป็นปีแห่งการติดขัดอย่างไม่คาดฝัน
ในหลายส่วนของโลก บาร์ถูกสั่งปิด และในบางประเทศ เช่น แอฟริกาใต้ออกคำสั่งห้ามการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั่วคราว
บริษัทผู้ผลิตสัญชาติดัตช์เป็นผู้ผลิตที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยนอกเหนือจากจะเป็นเจ้าของเบียร์ไฮเนเก้นแล้ว ยังมีแบรด์อื่นเป็นต้นว่า ยี่ห้อเสือ (tiger) และยี่ห้อโซล (sol)
การลดจำนวนพนักงานทั่วโลกลงจำนวน 8,000 ตำแหน่ง คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดทั่วโลก และในอังกฤษ บีบีซีชี้ว่า จะมีพนักงานบริษัทไฮเนเก้นไม่ถึง 100 คน ที่จะถูกเลิกจ้างจากจำนวนทั้งหมด 2,300 คน
โดยโฆษกบริษัทไฮเนเก้นอังกฤษ แถลงว่า “การปิดผับและบาร์ในเดือนมีนาคม และตามมาด้วยมาตรการจำกัดหลังจากนั้น และรวมไปถึงช่วงเวลาคริสต์มาสได้มีผลกระทบต่อยอดการขายเบียร์และไซเดอร์ (เหล้าชนิดหนึ่ง) สำหรับตลอดทั้งปีเต็ม”
สื่ออังกฤษชี้ว่า ถึงแม้ว่าทางไฮเนเก้นจะเห็นการจำหน่ายได้มากกว่านอกผับและบาร์ แต่ทว่ายังคงไม่สามารถทดแทนได้ต่อผลกระทบที่มีต่อการขายในผับและบาร์
ซึ่งในระหว่างที่ทางบริษัทประกาศการสั่งปลดพนักงานออก CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ไฮเนเก้นได้รายงานผลการขาดทุนสุทธิประจำปี 2020 จำนวน 204 ล้านยูโร หรือราว 247.6 ล้านดอลลาร์ เทียบกับผลกำไรที่ทำได้ในปีก่อนหน้า (2019) ที่ 2.2 พันล้านยูโร หรือราว 2.7 พันล้านดอลลาร์ รายได้ตกไป 16.7% อยู่ที่ 23.8 พันล้านยูโร หรือราว 28.9 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางการปิดผับบาร์และร้านอาหารในตลาดสำคัญ รวมไปถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่กำหนดให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคมและการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
บริงก์ที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อมิถุนายนปีที่ผ่านมา กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “ผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดต่อธุรกิจเราถูกขยายโดยพันธมิตรธุรกิจของเรา (ผับ บาร์ และร้านอาหาร) และการกระทบด้านภูมิศาสตร์”
ไฮเนเก้นคาดการณ์ว่า ภายในสิ้นมกราคมไม่ต่ำกว่า 30% ของบาร์และร้านอาหารจะเปิดให้บริการในยุโรปซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของไฮเนเก้น
และจากการที่หลายประเทศในภูมิภาคกลับมาสั่งล็อกดาวน์อีกครั้งในเดือนธันวาคม และได้ออกคำสั่งเข้มงวดในมาตรการโควิด-19 มากขึ้นนับตั้งแต่นั้น ไฮเนเก้นกล่าวว่า ทางบริษัทได้สั่งตัดบัญชีให้เป็นหนี้สูญเกี่ยวข้องกับผับในอังกฤษจำนวน 191 ล้านยูโร หรือ 231.6 ล้านดอลลาร์
ซึ่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน มีแผนที่จะประกาศโร๊ดแม็พการฟื้นตัวในวันที่ 22 ก.พ ที่จะถึงนี้
บีบีซี ชี้ว่า โวลุมการขายเบียร์ไฮเนเก้นลดลงในยุโรป เม็กซิโก แอฟริกาใต้ และอินโดนีเซีย ทางไฮเนเก้นแถลงว่า มีเป้าหมายจำนวน 2 พันล้านยูโร สำหรับความต้องการประหยัดเงินเป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากนี้ไปจนถึงปี 2023 รวมไปถึงการตัดยอดค่าใช้จ่ายบุคคล 350 ล้านยูโร
CNN รายงานว่า อย่างไรก็ตาม ในปี 2020 บริษัทเห็นเติบโตของยอดจำหน่ายเบียร์โดยตรงให้กับผู้บริโภคที่นำกลับไปดื่มที่บ้านผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง เป็นต้นว่า beerwulf รวมไปถึง Six2Go และ Drinkies ที่เห็นยอดการจำหน่ายสูงขึ้น 3 เท่า
แต่กระนั้นโวลุมการจำหน่ายเบียร์ในปีที่ผ่านมาตกไป 8.1% แต่ทางไฮเนเก้นเห็นการจำหน่ายเพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล เป็นต้นว่า ไฮเนเก้น 0.0 และ มัลตินา (Maltina) ในไนจีเรีย โดยทางบริษัทชี้ว่า เป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ที่เห็นการเติบโตอย่างมีศักยภาพ และทำให้ทางบริษัทตัดสินใจที่จะเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอลในส่วนอื่นๆ ของโลก รวมไปถึงเครื่องดื่มสปาร์กกลิ้ง วอเตอร์ที่มีส่วนผสมแอลกอฮอลที่เริ่มออกจำหน่ายในเม็กซิโกและนิวซีแลนด์ตั้งแต่ปีที่แล้ว