ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศวานนี้ (4 ก.พ.) ว่าอเมริกาขอยุติการสนับสนุนต่อปฏิบัติการทางทหารของกลุ่มพันธมิตรซาอุดีอาระเบียในเยเมน โดยระบุว่าความขัดแย้งซึ่งเป็นเสมือน “สงครามตัวแทน” ระหว่างริยาดกับอิหร่านและยืดเยื้อมานานถึง 6 ปี “ต้องจบลงเสียที”
ไบเดน ยังแต่งอดีตนักการทูต ทิโมธี เลนเดอร์คิง เป็นผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ด้านเยเมน เพื่อใช้กลไกการทูตของอเมริกา “ปิดฉากสงครามซึ่งก่อหายนะทางด้านยุทธศาสตร์และมนุษยธรรมครั้งใหญ่”
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยกให้สงครามเยเมนเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของโลก โดยระบุว่ามีประชากรเยเมนถึง 80% ที่กำลังประสบความทุกข์ยากเดือดร้อนและจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ ขณะที่อีกหลายล้านคนเสี่ยงเผชิญความอดอยากขั้นเลวร้าย
“สงครามครั้งนี้ต้องจบลงเสียที” ไบเดน ซึ่งเป็นผู้นำสายเดโมแครตกล่าวที่กระทรวงการต่างประเทศในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. “และเพื่อเน้นย้ำเจตนารมณ์ของเรา เราจะหยุดสนับสนุนปฏิบัติการสู้รบที่นั่น รวมถึงระงับการจำหน่ายอาวุธที่จะถูกนำไปใช้ด้วย”
ทั้งนี้ คำสั่งของ ไบเดน ถือเป็นการพลิกนโยบายที่สหรัฐฯ ใช้มาโดยตลอดตั้งแต่ยุครัฐบาลทรัมป์ รวมถึงรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งตัวเขาเองเคยเป็นรองประธานาธิบดี
อย่างไรก็ดี ไบเดน ยืนยันว่า หากซาอุดีอาระเบีย “ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ, อากาศยานไร้คนขับ หรือเผชิญภัยคุกคามอื่นๆ จากกองกำลังซึ่งได้รับการหนุนหลังโดยอิหร่านในหลายๆ ประเทศ สหรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนและช่วยเหลือซาอุดีอาระเบียในการปกป้องไว้ซึ่งอธิปไตย, บูรณภาพแห่งดินแดน และชีวิตประชาชน”
รัฐบาลริยาดออกมาตอบรับท่าทีของ ไบเดน ด้วยดี โดยเฉพาะในส่วนที่สหรัฐฯ รับปากว่าจะช่วยสนับสนุนในด้านป้องกันประเทศและรับมือภัยคุกคามจากอิหร่าน
ซาอุดีอาระเบียและกลุ่มชาติพันธมิตรได้เข้าแทรกแซงความขัดแย้งในเยเมนเมื่อปี 2015 โดยให้การสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลเยเมนที่ต่อสู้กับ “กบฏฮูตี” ซึ่งมีอิหร่านคอยหนุนหลัง
เจ้าหน้าที่ยูเอ็นพยายามที่จะรื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามดังกล่าว เนื่องจากเยเมนนั้นบอบช้ำอย่างหนักทั้งในด้านเศรษฐกิจ ค่าเงิน และยังต้องเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนคำสั่งของ ทรัมป์ ที่ประกาศให้กบฏฮูตีเป็น “องค์กรก่อการร้าย”
ยูเอ็นและองค์กรบรรเทาทุกข์เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกประกาศดังกล่าวเสีย เพราะมีแต่จะทำให้เยเมนประสบภาวะอดอยากรุนแรงขึ้น ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาล ไบเดน ก็ได้อนุมัติธุรกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับกบฏฮูตีในเยเมนไปตลอดเดือน มี.ค. ระหว่างที่สหรัฐฯ ดำเนินการทบทวนประกาศของ ทรัมป์
ที่มา: รอยเตอร์