ศาลสูงอินเดียพิพากษาให้การ "ลูบคลำเนื้อตัวโดยไม่ถอดเสื้อผ้า" ไม่ถือเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ เรียกเสียงวิจารณ์อื้ออึงจากบรรดานักเคลื่อนไหวที่ต่อสู้เพื่อปกป้องเด็กและสตรีจากการตกเป็นเหยื่อความรุนแรง
สัปดาห์ที่แล้ว ปุษปะ คเนทิวาลา ผู้พิพากษาศาลสูงเมืองบอมเบย์ ได้พิพากษาให้ชายวัย 39 ปีคนหนึ่งพ้นผิดในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงวัย 12 ปี โดยอ้างว่าจำเลยไม่ได้ถอดเสื้อผ้าของเธอ ซึ่งก็แปลว่าไม่มีการสัมผัสร่างกายโดยตรง
เอกสารของศาลระบุว่า ชายคนนี้หลอกล่อเด็กหญิงไปที่บ้านเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2016 โดยบอกว่าจะให้ฝรั่งไปกิน จากนั้นก็เข้าไปจับหน้าอก และพยายามถอดกางเกงชั้นในของเธอออก
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ชายคนนี้มีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศ และถูกลงโทษจำคุก 3 ปี แต่จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์จนกระทั่งเรื่องมาถึงศาลสูง
ผู้พิพากษาหญิง คเนทิวาลา ได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ว่า การกระทำของชายคนนี้ไม่เข้าข่ายเป็น “การล่วงละเมิดทางเพศ (sexual assault)” ซึ่งมีระวางโทษจำคุก 3-5 ปี ดังนั้นจึงตัดสินให้เขาพ้นจากข้อกล่าวหา และให้ลงโทษในความผิดฐานลวนลาม (molestation) ซึ่งมีโทษจำคุกเพียง 1 ปีแทน
ทั้งนี้ กฎหมายคุ้มครองเด็กจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศปี 2012 (Protection of Children From Sexual Offenses Act) ของอินเดียก็ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า “จำเป็น” จะต้องมีการสัมผัสร่างกายโดยตรง จึงจะถือเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ
คำพิพากษาของศาลสูงบอมเบย์จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล และคาดว่าจะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่สำหรับการตัดสินคดีทางเพศที่ศาลสูงและศาลชั้นต้นทั่วอินเดียต้องทำตาม
คณะกรรมการสตรีแห่งชาติอินเดีย (National Commission for Women) เตรียมยื่นคัดค้านคำพิพากษานี้ ซึ่งพวกเขาเกรงว่าอาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อกฎหมายฉบับอื่นๆ ที่ตราขึ้นเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้หญิง
รันจานา กุมารี ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการวิจัยทางสังคม (Centre for Social Research) ซึ่งทำงานส่งเสริมสิทธิสตรีในอินเดีย วิจารณ์คำตัดสินนี้ว่า “เป็นเรื่องน่าละอาย รับไม่ได้ น่าตกตะลึง และขาดความรอบคอบในการพิจารณาคดี”
การล่วงละเมิดทางเพศถือเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมอินเดีย และแม้จะมีข่าวผู้หญิงและเด็กตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดอย่างป่าเถื่อนบ่อยครั้ง ทว่าระบบยุติธรรมของประเทศกลับไม่สามารถป้องปรามหรือแก้ไขเรื่องนี้ได้
ข้อมูลสถิติทางการในปี 2018 พบว่า มีผู้หญิงอินเดียถูกข่มขืนเฉลี่ย 1 คนในทุกๆ 16 นาที
ที่มา: CNN