รัฐบาลฮ่องกงออกคำสั่งล็อกดาวน์ย่านที่พักอาศัยในฝั่งเกาลูนวันนี้ (23 ม.ค.) โดยให้ประชาชนราว 10,000 คนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน จนกว่าเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจคัดกรองโควิด-19 จนครบทุกคน และทราบผลตรวจเป็นส่วนใหญ่แล้ว
อาคารที่พักอาศัย 70 หลังในย่านจอร์แดน (Jordan) ถูกประกาศให้เป็น “พื้นที่ควบคุม” โดยเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจคัดกรองโควิด-19 ให้เสร็จสิ้นภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนสามารถออกไปทำงานได้ในวันจันทร์ (25)
ทางการฮ่องกงเริ่มใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเมืองซึ่งเป็นทั้งศูนย์กลางการเงินและการบินแห่งเอเชีย ทว่าวันนี้ (23) ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐถึงขั้นต้องประกาศล็อกดาวน์
โซเฟีย ชาน รัฐมนตรีสาธารณสุขฮ่องกง ระบุว่า พื้นที่ตรงนี้ส่วนใหญ่เป็นอาคารเก่าซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างแออัด
“ความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่เชื้อภายในชุมชนจึงมีสูงมาก” ชาน แถลงต่อสื่อมวลชน “หลังจากประเมินสถานการณ์แล้ว เราคิดว่าจำเป็นที่จะต้องประกาศล็อกดาวน์พื้นที่เพื่อตรวจหาเชื้อ โดยหวังว่าจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงเป็นศูนย์ให้ได้”
“ผู้พักอาศัยทุกคนจะต้องเก็บตัวอยู่ในที่พักเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อ จนกว่าจะทราบผลการตรวจ”
ย่านที่พักอาศัยแห่งนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 162 คนในเดือน ม.ค. และจากการเก็บตัวอย่างน้ำเสียจากอาคารเหล่านี้ไปตรวจพบว่ามีปริมาณเชื้อไวรัสสูงกว่าในพื้นที่อื่นๆ ด้วย
“ผู้พักอาศัยทุกคนจะต้องเก็บตัวอยู่ในที่พักเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อ จนกว่าจะทราบผลการตรวจ”
ฮ่องกงถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังเกิดการแพร่ระบาดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อปลายปี 2019
ที่ผ่านมารัฐบาลฮ่องกงสามารถควบคุมยอดผู้ติดเชื้อสะสมเอาไว้ที่ระดับต่ำกว่า 10,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเพียง 170 คน ทว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้เกิดการระบาดระลอกที่ 4 ขึ้น โดยเฉพาะตามชุมชนผู้มีรายได้น้อยแถบเหยาซิมหมง (Yau Tsim Mong) ซึ่งยังคงมีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: รอยเตอร์