นายกฯ มองโกเลีย ‘ลาออก’ หลังคนลุกฮือประท้วงวิธีปฏิบัติต่อ ‘แม่ลูกอ่อนติดโควิด’

นายกรัฐมนตรีมองโกเลียประกาศลาออกจากตำแหน่งวานนี้ (21 ม.ค.) หลังเกิดการประท้วงใหญ่ในกรุงอูลานบาตอร์จากกรณีหญิงแม่ลูกอ่อนคนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายไปยังศูนย์กักกันโรคโควิด-19 ในขณะที่เธอสวมแค่ชุดนอน และสภาพอากาศในตอนนั้นก็หนาวเย็นจัดถึง -25 องศาเซลเซียส

สำนักข่าว Montsame ของทางการมองโกเลียอ้างเนื้อความในจดหมายลาออกของนายกรัฐมนตรี อุกนา คูเรลซุก ซึ่งระบุว่า เขา “พร้อมจะแสดงความรับผิดชอบ และรับฟังเสียงของประชาชน”

รัฐสภามองโกเลียได้อนุมัติการลาออกของนายกรัฐมนตรีแล้วในวันนี้ (22) ซึ่งจะทำให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี โอยุน-เออร์เดเน ลุฟซานนัมซไร ขึ้นรักษาการตำแหน่งนายกฯ แทน

ผู้คนจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วงในวันพุธ (20) เพื่อแสดงความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติต่อหญิงแม่ลูกอ่อนอย่างไร้มนุษยธรรม หลังสื่อเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่นำตัวหญิงคนหนึ่งที่เพิ่งจะคลอดลูกและสวมเพียงชุดนอนโรงพยาบาลกับรองเท้าแตะพลาสติก ไปยังสถานที่กักตัวผู้ป่วยโควิด-19 ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ

“เราได้ทำในสิ่งที่ผิดพลาดไป ระหว่างเคลื่อนย้ายคุณแม่รายนี้” คูเรลซุก ระบุ “ผมรู้สึกเสียใจอย่า
งยิ่งเมื่อเห็นว่าเธอถูกปฏิบัติอย่างไร... ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมต้องแสดงความรับผิดชอบ”

ภาพของคุณแม่ที่อุ้มลูกน้อยแรกเกิดบนรถพยาบาลยิ่งจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง เนื่องจากชาวมองโกเลียเชื่อกันว่าหญิงที่เพิ่งคลอดบุตรควรหลีกเลี่ยงอากาศหนาว และงดรับประทานอาหารเย็นๆ เป็นเวลา 1 เดือน

การประท้วงที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอาวุโส 2 คนถูกปลดจากตำแหน่ง ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ยื่นจดหมายลาออกด้วยเช่นกัน

มองโกเลียเคยได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าสามารถรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีในช่วงแรก ทว่าตอนนี้กำลังเผชิญกับการระบาดกลุ่มก้อนใหญ่ซึ่งมีผู้เดินทางจากรัสเซียคนหนึ่งเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์

มองโกเลียมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสม 1,584 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมดราวๆ 3 ล้านคน

ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี