ชาวอิเหนาผวาอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.0 แมกนิจูด เขย่าเกาะสุลาเวสี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (16 ม.ค.) ขณะที่หน่วยกู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 45 ราย บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน
สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซียยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บจากอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.0 ที่เมืองมามูจู (Mamuju) และมาเจเน (Majene) ในจังหวัดสุลาเวสีตะวันตก ซึ่งเกิดตามหลังแผ่นดินไหวขนาด 6.2 เมื่อช่วงเช้ามืดวันศุกร์ (15)
โดนี โมนาร์โด ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติ ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ Kompas TV ว่า ปฏิบัติการค้นหายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อาจจะยังติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่ม
จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้บาดเจ็บจากแผ่นดินไหวมากกว่า 820 คน และต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่อีก 15,000 คน โดยชาวบ้านบางส่วนเลือกที่จะหนีขึ้นไปบนภูเขา แต่ส่วนใหญ่ไปอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงที่รัฐจัดให้
ความรุนแรงของแผ่นดินไหวเมื่อวานนี้ (15) ทำให้บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 300 หลัง รวมถึงโรงแรม 2 แห่ง, โรงพยาบาล 1 แห่ง และศาลาว่าการจังหวัดสุลาเวสีตะวันตก ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่ายังมีคนติดอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก
ทวิโกริตา การ์นาวาตี ผู้อำนวยการสำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์แห่งอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์ต่อ Metro TV วันนี้ (16) โดยฝากเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อกที่อาจมีความแรงถึง 7.0 แมกนิจูด และให้อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเล เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดคลื่นสึนามิ
ระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวนั้นวัดด้วยมาตราส่วนลอการิทึมฐาน 10 ซึ่งหมายความว่าแผ่นดินไหวขนาด 7.0 แมกนิจูดนั้นจะมีความแรงมากกว่าขนาด 6.0 แมกนิจูดถึง 10 เท่าตัว
อินโดนีเซียตั้งอยู่บนแนววงแหวนไฟแห่งมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งเป็นภูมิภาคที่เกิดกิจกรรมแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง
เมื่อปี 2018 แผ่นดินไหวขนาด 6.2 ที่เมืองปาลู (Palu) บนเกาะสุลาเวสีทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดถล่มชุมชนชายฝั่ง และคร่าชีวิตประชาชนไปหลายพันคน
ที่มา : รอยเตอร์