นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง แห่งสิงคโปร์เข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดสแรกในวันนี้ (8 ม.ค.) พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนทยอยเข้ารับวัคซีน แม้สถานการณ์การระบาดในสิงคโปร์จะเข้าสู่สภาวะควบคุมได้แล้วก็ตาม
ในขณะที่สหรัฐฯ และอังกฤษต้องเร่งรัดโครงการฉีดวัคซีนฉุกเฉินเพื่อชะลอตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น แต่มาตรการควบคุมโรคของสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จทำให้กราฟผู้ติดเชื้อเข้าสู่แนวราบ และมีรายงานผู้ป่วยในประเทศน้อยมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
รัฐบาลสิงคโปร์อ้างผลการศึกษาที่พบว่ามีประชากรเกือบ 60% พร้อมเข้ารับวัคซีน แต่ขณะเดียวกันก็มีชาวสิงคโปร์บางคนที่ยังลังเล เนื่องจากมองว่าอัตราการติดเชื้อในประเทศลดต่ำลงมากแล้ว และเกรงว่าวัคซีนที่พัฒนาอย่างเร่งรีบนั้นอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
“มันจะช่วยให้พวกเราปลอดภัยขึ้น และทำให้คุณและคนที่คุณรักปลอดภัยขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นถ้าพวกคุณสะดวกเมื่อไหร่ก็ขอให้มาฉีดกันเถอะ” ลี วัย 68 ปี ให้สัมภาษณ์ หลังจากเข้ารับวัคซีนที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
รัฐบาลสิงคโปร์เพิ่งจะอนุมัติใช้งานวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคเพียงรายเดียว แต่ก็ได้สั่งซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตรายอื่นๆ ด้วย เช่น โมเดอร์นาและซิโนวัค ซึ่งจะเพียงพอสำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชากร 5.7 ล้านคน
บุคลากรทางการแพทย์ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นแนวหน้าต่อสู้โควิด-19 ได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรกเมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. และสิงคโปร์จะเริ่มทำการฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขส่วนใหญ่ตั้งแต่วันนี้ (8) เป็นต้นไป ตามมาด้วยกลุ่มผู้สูงอายุในเดือน ก.พ. และคาดว่าจะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชากรทุกคนภายในสิ้นปีนี้
นายกฯ ลี ได้เข้ารับวัคซีนพร้อมกับ เคนเนธ มัค ผู้อำนวยการด้านบริการทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ และยืนยันว่ายังรู้สึก “สบายดี”
“พวกเรามาฉีดวัคซีนกันเป็นคนแรกๆ เพื่อให้ชาวสิงคโปร์มั่นใจว่าวัคซีนตัวนี้ปลอดภัย และได้ผลจริง” ลี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
แม้รัฐบาลสิงคโปร์จะไม่ได้บังคับให้ประชาชนทุกคนต้องฉีดวัคซีน แต่ก็มีแผนสร้างแรงจูงใจด้วยการพิจารณาผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางให้แก่ผู้ที่ยอมฉีดวัคซีนด้วย
ที่มา: รอยเตอร์
