เอเจนซีส์ - ล่าสุดพบผู้ตายในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เป็นอดีตทหารอากาศหญิงสหรัฐฯ แอชลี แบบบิตต์ (Ashli Babbitt) พบถูกตำรวจนอกเครื่องแบบยิงระหว่างพยายามบุกเข้าไปถึงข้างในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเมื่อวานนี้ (6 ม.ค.)
สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันนี้ (7 ม.ค.) ว่า มีรายงานออกมาล่าสุดถึงผู้สนับสนุนทรัมป์ที่เสียชีวิตภายในสภาคองเกรสสหรัฐฯ เป็นผู้หญิงวัย 35 ปี อดีตทหารอากาศสหรัฐฯ ชื่อ แอชลี แบบบิตต์ (Ashli Babbitt)
พบเธอถูกยิงโดยตำรวจนอกเครื่องแบบระหว่างที่เธอและพวกพยายามจะบุกเข้าไปถึงภายในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯในวันพุธ (6) ระหว่างก่อจลาจล
สกายนิวส์ชี้ว่า แบบบิตต์ได้รับใช้ชาติออกไปต่างแดนถึง 4 ครั้ง ระหว่างที่เธอยังทำงานให้กองทัพอากาศสหรัฐฯนาน 14 ปี และเธอมาจากเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สามี อารอน (Aaron) ให้ข้อมูลกับ คูซี ทีวี (KUSI TV)
เขาเปิดเผยอีกว่า ภรรยาเป็นพวกฝังหัวสนับสนุนประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างรุนแรง
โรบิน แบบบิตต์ (Robin Babbitt) แม่สามีของแบบบิตต์ แสดงความรู้สึกเมื่อได้ทราบข่าวว่า “ดิฉันรู้สึกชา และหัวใจแทบสลาย ไม่มีใครจากดีซีแจ้งให้ลูกชายของดิฉันรับทราบ และพวกเราเพิ่งรู้ข่าวจากทีวีนี่เอง”
สกายนิวส์รายงานว่า แบบบิตต์ถูกยิงระหว่างที่เธอและกลุ่มม็อบพยายามบุกเข้าเพื่อขัดขวางกระบวนการนับคะแนนอิเล็กทรอรัล โหวต เพื่อรับรองให้ว่าที่ปะธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ โดยในกระบวนการมีรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ อยู่ด้านในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ
จัสติน แจ็กสัน (Justin Jackson) พี่เขยให้สัมภาษณ์ถึงน้องสะใภ้คนนี้ ว่า เธอเป็นคนที่เชื่ออย่างสุดจิตสุดใจและจงรักภักดีต่อสิ่งนั้น แบบบิตต์ รักสหรัฐฯ และมีความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติในกองทัพอากาศ และเขาได้รัองขอให้เป็นการส่วนตัวและเคารพต่อครอบครัวของเธอในช่วงนี้
ทั้งนี้ เหตุการณ์ยิงถูกสอบสวนโดยหน่วยงานภายในซึ่งรับผิดชอบต่อการสอบสวนการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ประท้วงม็อบทรัมป์ที่เห็นเหตุการณ์แบบบิตต์ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบยิงให้สัมภาษณ์กับ WUSA 9 ว่า “ตำรวจและตำรวจลับสหรัฐฯจำนวนมากตะโกนบอกว่า ให้ถอยกลับไป หลบลงต่ำ ไปให้พ้น”
และกล่าวถึงแบบบิตต์ว่า “เธอไม่สนใจฟังคำสั่งจากการที่พวกเราพยายามที่จะเข้าไปเอาตัวผู้คนและนำกลับมา คนพวกนั้นยิงเธอเข้าที่คอและเธอล้มมาที่ผม”
พยานในเหตุการณ์กล่าวอีกว่า “เธอพูดว่า ไม่เป็นไร มันดีแล้ว และเธอเริ่มขยับในท่าทีที่แปลกมากและเลือดไหลออกมาจากทั้งทางปาก คอ และจมูก และผมไม่รู้อีกต่อไปว่าเธอเสียชีวิตหรือยังมีชีวิตอยู่”
เขากล่าวอีกว่า “ผมไม่ได้รับบาดเจ็บ...มันอาจเป็นผมแต่เธอโดนก่อน”
ทั้งนี้ ก่อนการประท้วงแบบบิตต์ได้เขียนลงทวิตเตอร์มีใจความว่า “ไม่มีใครสามารถหยุดพวกเราไว้ได้...พวกเขาสามารถพยายามและพยายามแต่พายุได้อยู่ที่นี่แล้ว และมันมุ่งหน้ามาที่ดีซีไม่ถึง 24 ชั่วโมง...ความมืดเพื่อไปให้ถึงความสว่าง”
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการรีทวีตข้อความสนับสนุนทรัมป์ รวมไปถึงวิดีโอคลิปของผู้นำสหรัฐฯที่เรียกร้องให้เหล่าผู้สนับสนุนของเขาออกมาร่วมการเดินขบวนที่กรุงวอชิงตัน ดีซี
สกายนิวส์ชี้ว่า เธอและสามีเปิดกิจการให้บริการสระว่ายน้ำที่เมืองซานดิเอโก ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า ในเหตุจลาจลบุก เดอะแคปปิตอล ฮิลล์ มีผู้เสียชีวิตรวมแบบบิตต์ทั้งหมด 4 ราย และผู้ประท้วงถูกจับกุมอีก 52 คน