เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ล่าสุดรัฐบาลเปียงยางหันมาให้ความสนใจกลับมาพัฒนาสถานที่ตากอากาศชื่อดังภูเขาคุมกังให้มีความทันสมัยและเพียบพร้อมสำหรับการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในเชิงวัฒนธรรม หลังก่อนหน้าผู้นำถึงขั้นออกคำสั่งระเบิดอาคารที่ถูกสร้างโดยเกาหลีใต้ที่เป็นสัญลักษณ์แสดงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ขณะที่ญี่ปุ่นมีข่าวในวันศุกร์ (18 ธ.ค.) มีแผนเพื่อเตรียมสร้างขีปนาวุธต่อต้านเรือรบพิสัยไกลกว่า ต่อต้านภัยการคุกคามในทะเลจีนตะวันออกจากปักกิ่ง
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (20 ธ.ค.) ว่า สำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือ KCNA ได้เปิดเผยวันอาทิตย์ (20) ว่า สถานที่ตากอากาศภูเขาคุมกัง (Mount Kumgang complex) กำลังจะได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นรีสอร์ตระดับนานาชาติ 1 ปีหลังประธานาธิบดี คิม จองอึน ออกคำสั่งให้ระเบิดอาคารสำนักงานของโซลที่ถูกสร้างขึ้นที่นั่นทิ้ง เนื่องจากไม่พอใจในเกาหลีใต้อย่างหนัก
รีสอร์ตที่ถูกสร้างโดยบรินิษัท ฮุนได อาซาน (Hyundai Asan) ถือเป็นสัญลักษณสำคัญด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง 2 ชาติเกาหลี สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ได้จำนวนหลายแสนคน
แต่ทว่าในปีที่ผ่านมาพบว่าคิมได้ออกคำสั่งให้ระเบิดทำลายสิ่งปลูกสร้างของเกาหลีใต้บนภูเขาคุมกังโดยให้เหตุผลว่า “รกสายตา”รวมไปถึงยังบ่นว่าอาคารอยู่ในสภาพย่ำแย่ทรุดโทรม โดยชี้ว่าเป็นลักษณะเหมือนเต็นท์ผู้ประสบภัย หรือวอร์ดผู้ป่วยที่ถูกสั่งขังแยกมากกว่า
แต่ทว่า วันนี้ (20) ตามการรายงาน ล่าสุด นายกรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ คิม โต๊ก ฮุน (Kim Tok Hun) มีคำสั่งย้ำ “ให้เห็นความจำเป็นถึงการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นไปตามแบบของเกาหลีเหนือเพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นรีสอร์ตในด้านวัฒนธรรมเพื่อให้ทั่วทั้งโลกต้องอิจฉาแทน”
เป็นการแสดงความเห็นระหว่างที่นายกฯเกาหลีเหนือเดินทางไปรีสอร์ตคุมกัง และยังผลักดันให้ทุกฝ่ายทำให้ภูเขาคุมกังมีความทันสมัยและมีทุกสิ่งพร้อมสรรพเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลก
ความสัมพันธ์ระหว่างเปียงยางและโซลในปีนี้ไม่สู้ดีมาตลอดและทางเปียงยางยังไม่สามารถกลับคืนสู่โตะเจรจาอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯได้ในรอบ 3 โดย ในเดือนมิถุนายนต้นปี เปียงยางได้ทำลายสำนักงานประสานงานร่วมกับทางใต้ที่ตั้งขึ้นในฝั่งของตนที่แกซอง (Kaesong) ทิ้ง โดยให้เหตุผลเพียงว่า “ไม่มีความสนใจในการเจรจา”
ศาสตราจารย์ Leif-Eric Easley ประจำมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha University) ในกรุงโซลแสดงความเห็นว่า รัฐบาลเปียงยางมีความยากลำบากในการหาปัจจัยสำหรับการพัฒนาภูเขาคุมกังและจำเป็นต้องพึ่งพาการลงทุนมาจากภายนอก และเชื่อว่า ประธานาธิบดี คิม จองอึน จะหาทมางกดดันรัฐบาลโซลของประธานาธิบดี มุน แจ-อิน ในการกลับมาให้ความช่วยเหลือทางการเงินที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายเกาหลีเหนือ
ขณะเดียวกัน กลุ่มนอร์ท 38 ที่เฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือได้รายงานในวันศุกร์ (18) ว่า ภาพถ่ายดาวเทียมรอบใหม่ชี้ให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่เปียงยางกำลังสร้างสถานที่ทดลองระเบิดนิวเคลียร์แห่งใหม่อย่างลับๆ
โดยกลุ่มอาคารที่ดูไม่มีความน่าสนใจที่เรียกว่า “แกงซอน” (Kangson) ตั้งอยู่บริเวณชานกรุงเปียงยางทางตะวันตกเฉียงนั้นถูกบ่งชี้มาจากผู้เชี่ยวชาญมาตั้งแต่ปี 2018 ว่าอาจเป็นที่ตั้งศูนย์การเสริมสมรรถภาพแร่ยูเรเนียมอย่างลับๆ สำหรับเชื้อเพลิงระเบิดนิวเคลียร์
แต่ทว่าภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดที่เปิดเผยโดยทางกลุ่ม 38 นอร์ทถูกตรวจสอบโดยรอยเตอร์ในวันศุกร์ (18) ระบุว่า กลุ่มอาคารเหล่านี้อาจถูกใช้สำหรับการผลิตเครื่องหมุนเหวี่ยง (อังกฤษ : centrifuge) ที่เป็นเครื่องมือสำหรับยูเรเนียมเสริมสมรรถนะมากกว่า
โดยรายงานที่เปิดเผยออกมาครั้งใหม่นี้ทำให้มีคำถามต่อไปว่า ศูนย์แกงซอนแห่งนี้เป็นที่ตั้งสำหรับการสร้างเครื่องจักรหรือการสร้างส่วนประกอบของระเบิดกันแน่
โดย โอลลี ไฮโนเนน (Olli Heinonen) อดีตเจ้าหน้าที่ IAEA กล่าวในรายงานว่า “ลักษณะของที่ตั้งนั้นสอดคล้องกับโรงงานที่สามารถผลิตส่วนประกอบสำหรับเครื่องเหวี่ยงอนุภาค”
การรายงานของกลุ่ม 38 นอร์ทเกิดขึ้นมาในวันเดียวกัน (18) ที่รัฐบาลโตเกียวของนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ ประกาศจะสร้างมิสไซล์พิสัยไกลกว่าต่อต้านเรือรบเพื่อต่อต้านการคุกคามในทะเลจีนตะวันออกจากปักกิ่ง
โดยในแถลงการณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น โนบูโอะ คิชิ (Nobuo Kishi) กล่าวว่า “สภาพแวดล้อมทางความมั่นคงล้อมรอบหมู่เกาะตะวันตกเฉียงใต้ของพวกเรานั้นมีความลำบากมากขึ้น เราต้องตอบโต้ในหนทางที่เหมาะสม”
มิสไซล์ที่จะถูกพัฒนาขึ้นจะทำให้ญี่ปุ่นสามารถขยายยุทธวิธีต่อต้านการเข้าถึงพื้นที่ต้องห้าม A2AD ด้วยการสกัดเรือต่างชาติให้ทำการวิ่งใกล้น่านน้ำของตัวเอง
และความเคลื่อนไหวล่าสุด เป็นนโยบายทางการทหารครั้งแรกนับตั้งแต่ซูงะข้ารับตำแหน่ง เกิดขึ้นระหว่างที่ญี่ปุ่นกำลังเร่งจัดหามิสไซล์ต่อต้านทางอากาศยานที่จะใช้สกัดมิสไซล์เกาหลีเหนือ และยังร่วมไปถึงมิสไซล์วิถีร่อนที่สาสมารถไปถึงเป้าหมายภาคพื้นที่จีนได้
โดยทางโตเกียวกล่าวว่า มิสไซล์พิสัยไกลตัวใหม่ที่ใช้เพื่อต่อต้านเรือรบจะถูกติดตั้งบนหลังรถบรรทุกต่อต้านเรือรบระยะ 200 กม.ที่ถูกส่งไปประจำหมู่เกาะโอกินาวาทางใต้แล้ว แต่พิสัยมิสไซล์ตัวใหม่ทางกระทรวงกลาโหมไม่ได้เปิดเผยว่าอยู่ในระยะเท่าใด
และในวันศุกร์ (18) ทางญี่ปุ่นประกาศจะติดตั้งระบบเรดาร์เอจิส 3 ตัวบนเรือรบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแบบเก่า
