xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : “สิงคโปร์” ชาติแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อนุมัติ “วัคซีนไฟเซอร์” สหรัฐฯใช้ตำรวจมาร์แชลคุ้มกันวัคซีนโควิด-19 ผ่าน UPS- FedEx

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง แถลงวันนี้ (14 ธ.ค.) ว่า สิงคโปร์ได้อนุมัติวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์สามารถใช้ได้ในประเทศ คาดจะได้รับล็อตแรกได้ทันสิ้นเดือนนี้ ส่วนในสหรัฐฯ วันอาทิตย์ (13 ธ.ค.) กลายเป็นวันที่หยุดทุกความเคลื่อนไหวจับจ้องไปที่การส่งวัคซีนไฟเซอร์จากโรงงานผลิตในรัฐมิชิแกนที่ได้รับการคุ้มกันจากตำรวจมาร์แชล คาดจะส่ง 2.9 ล้านโดสได้สำเร็จในสัปดาห์นี้ผ่าน UPS และ FedEx

เอเอฟพีรายงานวันนี้ (14 ธ.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียน ลุง กล่าวผ่านแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ในวันจันทร์ (14) ประกาศว่า รัฐบาลอนุญาตให้วัคซีนโควิด-19 ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัทยาไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) ให้ใช้ในประเทศ ตามหลังแคนาดา อังกฤษและสหรัฐฯ ที่ได้อนุมัติก่อนหน้า

ลีกล่าวว่า คาดหวังว่าวัคซีนล็อตแรกจะถูกส่งเข้ามาได้ทันภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้

ทางสิงคโปร์หวังว่าจะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชากร 5.7 ล้านคนภายในไตรมาสที่ 3 ของปีหน้า ซึ่งผู้ที่จะได้รับวัคซีนในสิงคโปร์ก่อนจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เป็นต้นว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และกลุ่มที่ต้องการได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ

ลีย้ำว่าการรับวัคซีนนี้เป็นเรื่องของความสมัครใจทางรัฐบาลไม่มีนโยบายบังคับแต่เขาย้ำต่อประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญของการได้รับวัคซีนเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย

“เป็นเพราะเมื่อพวกคุณได้รับวัคซีนพวกคุณไม่ใช่แค่ปกป้องตัวเองแต่คุณยังทำในส่วนของการปกป้องคนอื่นๆ โดยเฉพาะบุคคลที่คุณรัก”

นอกจากนี้ ผู้นำสิงคโปร์ยังประกาศผ่อนคลายมาตรการที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.เป็นต้นไปจากการที่สิงคโปร์เห็นการระบาดลดลงทีในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแทบไม่เห็นการติดเชื้อในประเทศเกิดขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม เขาเตือนสาธารณะอย่างเพิ่งไว้วางใจในสถานการณ์และยังกระตุ้นให้ประชาชนยังอยู่ในการเตรียมความพร้อมต่อไปถึงแม้มาตรการป้องกันโควิด-19 จะผ่อนคลายลง

“นี่ไม่ใช่เป็นเวลาที่จะผ่อนคลายและปล่อยให้การ์ดตก หรือทำการจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่เพราะคิดไปว่าปัญหาได้ยุติลงแล้ว” นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ชี้

ขณะเดียวกัน ในสหรัฐฯ NBC News รายงานเมื่อวานนี้ (13) ว่า รถบรรทุกคันแรกที่ขนส่งวัคซีนโควิด-19 ได้ถูกส่งออกมาจากโรงงานผลิตที่รัฐมิชิแกนท่ามกลางความตื่นเต้นจากประชาชนทั่วประเทศ มีการรายงานสดตัดกับการให้สัมภาษณ์จากผู้ที่มีชื่อเสียง

พล.อ.กุสตาฟ เพอร์นา (Gen. Gustave Perna) หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวาร์ป สปีด(Operation Warp Speed) ได้ให้สัมภาษณ์ในวันเสาร์ (12) ว่า คาดว่าการขนส่งวัคซีนจำนวน 2.9 ล้านโดสได้ทันภายในสัปดาห์นี้

การขนส่งไปทั่วสหรัฐฯ จะกระทำผ่านระบบ UPS และ FedEx ซึ่งรถบรรทุกเทรลเลอร์ที่ขนวัคซีนไฟเซอร์ได้รับการคุ้มกันจากตำรวจมาร์แชลสหรัฐฯ

เพอร์นากล่าวว่า “เราคาดว่า 145 จุดทั่วสหรัฐฯ จะได้รับวัคซีนทันภายในวันจันทร์ (14) และอีก 425 จุดจะได้รับในวันอังคาร (15) และล็อตสุดท้ายอีก 66 จุดจะได้รับในวันพุธ (16) ซึ่งจะเป็นการเสร็จสิ้นการส่งวัคซีนไฟเซอร์รอบแรก”

CNN ชี้ว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สหรัฐฯ ต่างเตรียมพร้อมที่จะรับวัคซีนโควิด-19 เป็นครั้งแรกซึ่งคาดกันว่าการขนส่งจะเดินทางมาถึงในเวลา 08.00 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ในวันนี้ (14) ซึ่งวัคซีนจะถูกแจกจ่ายให้แก่แพทย์และพยาบาลและกลุ่มผู้สูงอายุในสถานดูแลก่อนเป็นอันดับแรก

ปัญหาสำคัญในการขนส่งวัคซีนไฟเซอร์อยู่ที่การทำให้อุณหภูมิต้องต่ำกว่า -70 องศาเซลเซียสตลอดเวลา โดย เวส วีลเลอร์ (Wes Wheeler) ประธาน UPS เฮลท์แคร์ (UPS Healthcare) ซึ่งควบคุมการขนส่งวัคซีนโควิด-19ในสหรัฐฯ ของ UPS กล่าวแสดงความเห็นวันอาทิตย์ (13) ว่า

“ต้องควบคุมให้อุณหภูมิต่ำกว่า -100 องศาฟาเรนไฮต์พร้อมกับน้ำแข็งแห้ง ต้องทำให้มั่นใจว่ามีการขนส่ง ต้องมั่นใจว่าอุณหภูมิจะต้องคงที่ ต้องมั่นใจว่าน้ำแข็งแห้งต้องถูกส่งตามมาหลังวัคซีนเดินทางมาถึง นี่เป็นสิ่งสำคัญ” และเสริมต่อว่า “ต้องมั่นใจว่าเราต้องประสานงานให้อุปกรณ์เครื่องมือต้องถูกส่งออกไปถึงก่อนวัคซีนเพื่อที่จุดรับวัคซีน (สถานพยาบาล) จะมีทุกสิ่งพร้อมตามความต้องการสำหรับในตอนเช้าพรุ่งนี้”

วีลเลอร์กล่าวต่อว่า ทางศูนย์บังคับการ UPS ดูการขนส่งวัคซีนทุกเที่ยวทั้งทางบกและทางอากาศและยังติดตามทุกการขนส่งตลอดเวลาเพื่อที่จะสามารถรู้ได้ว่าวัคซีนในเวลานี้อยู่ที่ใดบ้าง

โฆษกประจำศูนย์การแพทย์เวกซ์เนอร์มหาวิทยาลัยสเตทโอไฮโอ(Ohio State University Wexner Medical Center) แถลงคาดว่า วัคซีนล็อตแรกจะเดินทางมาถึงในเวลา 09.15-09.30 น.ของเช้าวันนี้ (14) และเมื่อได้รับทางศูนย์การแพทย์มีแผนจะเริ่มแจกวัคซีนให้กับคนกลุ่มเสี่ยงซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การแพทย์ของโรงพยาบาลจำนวนราว 20-30 คนในครั้งแรก



















กำลังโหลดความคิดเห็น