ที่ปรึกษาของผู้นำสูงสุดแห่งอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนาอี ประณามการที่โมร็อกโกฟื้นคืนความสัมพันธ์กับอิสราเอล ศัตรูเก่าแก่ของอิหร่าน กลับสู่ระดับปกติ โดยระบุว่าเป็น “การทรยศศาสนาอิสลาม”
เมื่อวันพฤหัสบดี (10) ราชอาณาจักรแห่งนี้กลายเป็นรัฐอาหรับแห่งที่สี่ในปีนี้ ที่ฟื้นคืนความสัมพันธ์กับอิสราเอล ในข้อตกลงที่ถูกประกาศโดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน วอชิงตันจะช่วยเต็มเติมเป้าหมายของราบัตด้วยการรับรองอำนาจอธิปไตยของพวกเขาเหนือพื้นที่พิพาทซาฮาราตะวันตก
“ข้อตกลงระหว่างอเมริกา โมร็อกโก และไซออนนิสต์เป็นการทรยศศาสนาอิสลามและปาเลสไตน์ เป็นการขายศักดิ์ศรีของอิสลามให้กับพวกไซออนนิสต์” อาลี อักบาร์ เวลายาตี ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศ กล่าวบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเขาเมื่อวันศุกร์ (11)
เขากล่าวเสริมว่า การฟื้นคืนความสัมพันธ์กับอิสลามไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะว่าโมร็อกโกเคยมีสำนักงานประสานงานในอิสราเอลอยู่แล้วในอดีต
โมร็อกโกตามหลังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และซูดาน เข้าสู่สิ่งที่รัฐบาลทรัมป์เรียกว่าเป็นสนธิสัญญาอัมราฮัม
เวลายาติพูดถึงทั้งสี่ประเทศว่า พวกเขาจะต้องเผชิญกับการลุกฮือของประชาชนในอนาคตอันใกล้ ขณะที่ผู้นำขี้ขลาดและเผด็จการของประเทศเหล่านี้จะถูกกระชากหน้ากาก
การที่สหรัฐฯ รับรองอำนาจอธิปไตยของโมร็อกโกเหนือซาฮาราตะวันตกสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มโปลิซาริโอฟรอนท์ ซึ่งควบคุมพื้นที่ประมาณหนึ่งในห้าของซาฮาราตะวันตก
ราบัต ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับซาอุดีอาระเบีย ศัตรูในภูมิภาคของอิหร่าน ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านในปี 2018 หลังกล่าวหาว่าอิหร่านสนับสนุนกลุ่มโปลิซาลิโอ ข้อกล่าวหาที่อิหร่านปฏิเสธ
ที่มา - เอเอฟพี