“สิงคโปร์-ฮ่องกง”ยกเลิกแผนสร้างทราเวลบับเบิลตลอดปีนี้ ขณะที่ผู้นำฮ่องกงวอนประชาชนในวันอังคาร (1 ธ.ค.) ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างและกักตัวอยู่บ้าน ด้านเวียดนามพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่มอีก 2 คน ส่วนที่ปรึกษาด้านไวรัสโคโรนาของทรัมป์ที่เคยป่าวประกาศว่า หน้ากากป้องกันไม่ช่วยอะไร ซ้ำชักชวนชาวรัฐมิชิแกนต่อต้านมาตรการสกัดไวรัส ได้ประกาศลาออกแล้ว
สกอตต์ แอตลาส ที่ปรึกษาด้านไวรัสโคโรนาคนโปรดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทวิตเมื่อเดือนตุลาคมว่า หน้ากากไม่ช่วยป้องกันโควิด ยื่นใบลาออกแล้วมีผลทันทีในวันอังคาร (1)
เดือนที่แล้ว แอตลาสซึ่งถูกมองว่าขาดทั้งประสบการณ์และคุณสมบัติความเชี่ยวชาญในด้านสาธารณสุขวงกว้างตลอดจนเรื่องโรคติดเชื้อ ยังได้เรียกร้องให้ชาวรัฐมิชิแกนลุกขึ้นต่อต้านมาตรการป้องกันโควิด
การลาออกของแอตลาสมีขึ้นขณะที่คนอเมริกันมีความหวังมากขึ้นที่จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อนสิ้นปีนี้ หลังจากเมื่อวันจันทร์ (30 พ.ย.) โมเดอร์นา บริษัทยาสหรัฐฯอีกรายหนึ่ง เผยว่า ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตการใช้วัคซีนต้านไวรัสโคโรนาฉุกเฉินในอเมริกาและยุโรปแล้ว
ทั้งนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำหลายคนของอเมริกาเตือนว่า จะมีการระบาดรุนแรงหลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้า โมเดอร์นานั้นได้รายงานผลการทดลองฉบับสมบูรณ์ที่ยืนยันว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพถึง 94.1%
สัปดาห์ที่แล้ว ไฟเซอร์ของสหรัฐฯและไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี ได้ร่วมกันขออนุมัติใช้วัคซีนฉุกเฉินซึ่งสองบริษัทร่วมกันพัฒนา และคาดว่า จะได้ไฟเขียวให้เริ่มแจกจ่ายได้อย่างรวดเร็วหลังจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ประชุมพิจารณาในวันที่ 10 นี้
หากเอฟดีเอเห็นว่า วัคซีนของโมเดอร์นาปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ บริษัทจะเริ่มแจกจ่ายให้คนอเมริกันได้ตั้งแต่กลางเดือนนี้ และคาดว่า จะมีวัคซีนแจกจ่ายในอเมริกาได้ราว 20 ล้านโดสภายในสิ้นปี และระหว่าง 500-1,000 ล้านโดสทั่วโลกในปีหน้า
ไวรัสโคโรนาทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1.4 ล้านคนทั่วโลกนับจากเริ่มระบาดในจีนเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
ในวันจันทร์ องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่า จะทำทุกทางที่เป็นไปได้เพื่อค้นหาสัตว์ที่เป็นต้นตอของโรคนี้ แม้ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเต็มคณะไปตรวจสอบในจีนเลยก็ตาม
ผู้สังเกตการณ์ฝ่ายตะวันตกหลายคนวิจารณ์ว่า WHO ยอมให้จีนกดดันมากเกินไปและถ่วงเวลาการตรวจสอบดังกล่าว ทว่า เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO เรียกร้องให้หยุดนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง
เกเบรเยซุสยังแสดงความกังวลกับสถานการณ์การระบาดในบราซิลและเม็กซิโก พร้อมเรียกร้องให้สองประเทศนี้จัดการควบคุมการระบาดอย่างจริงจังมากขึ้น
สำหรับที่เอเชียในวันอังคาร แคร์รี่ ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เรียกร้องให้ประชาชนงดออกจากบ้านและหลีกเลี่ยงการสังสรรค์ในครอบครัว ขณะที่ฮ่องกงกำลังต่อสู้กับการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ที่รุนแรงอย่างมาก และช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ รัฐบาลฮ่องกงประกาศยกระดับมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัส ด้วยการจำกัดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมไม่เกิน 2 คน และสั่งให้ข้าราชการพลเรือนส่วนใหญ่ทำงานจากที่บ้าน ขณะที่โรงเรียนจะปิดตั้งแต่วันพุธ (2) จนถึงสิ้นปี
สถานการณ์การระบาดของฮ่องกงที่รุนแรงขึ้นยังทำให้รัฐบาลตัดสินใจเลื่อนแผนการ travel bubble หรือระเบียงท่องเที่ยวกับสิงคโปร์ตลอดปีนี้
การระบาดครั้งใหม่ของฮ่องกงเกิดขึ้นหลังจากพบผู้ติดเชื้อรายวันเป็นตัวเลขหลักเดียวหรือหลักสิบต้นๆ นานหลายสัปดาห์ โดยที่ฮ่องกงได้หลีกเลี่ยงการใช้มาตรการล็อกดาวน์เบ็ดเสร็จเหมือนเมืองอื่นๆ ทั่วโลก
ในวันอังคาร ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 82 คน รวมสะสมเป็น 6,397 คน และเสียชีวิตทั้งสิ้น 109 คน
ขณะเดียวกัน สิงคโปร์ที่เคยมีผู้ติดเชื้อสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถควบคุมการระบาดได้อีกครั้ง และมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นเพียง 28 คน
ทางด้านเวียดนาม รัฐบาลรายงานเมื่อวันอังคารว่า พบผู้ติดเชื้ออีก 2 คนที่เชื่อมโยงกับการระบาดในท้องถิ่นในโฮจิมินห์ซิตี้
เวียดนามกลับมาใช้มาตรการเฝ้าระวังระดับสูงอีกครั้งหลังทางการยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นรายแรกในรอบ 89 วันเมื่อวันจันทร์ และมีการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ ในโฮจิมินห์ซิตี้ โดยผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นชายวัย 32 ปี ถูกตรวจพบติดเชื้อหลังไปเยี่ยมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนหนึ่งที่อยู่ระหว่างกักตัวที่บ้านหลังกลับจากญี่ปุ่นเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว และตรวจพบติดเชื้อเมื่อวันเสาร์ (28 พ.ย.)
ปัจจุบัน เวียดนามมีผู้ติดเชื้อสะสม 1,349 คน และเสียชีวิต 35 คน
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)