โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวฝักใฝ่ประชาธิปไตยฮ่องกง ให้สัมภาษณ์กับสื่อเยอรมนีว่าเขาสบายดี แม้ถูกขังเดี่ยว และมีปัญหาในการหลับนอนเพราะแสงไฟสว่างจ้าเกินไป หลังจากถูกควบคุมตัวส่งเข้าเรือนจำเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
หว่อง ซึ่งเมื่อวันจันทร์ (23 พ.ย.) ยอมรับสารภาพระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับการจัดการประท้วง, การเข้าร่วมการประท้วง และการยุยงผู้อื่นให้เข้าร่วมการประท้วงที่มิได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ที่บริเวณด้านนอกกองบัญชาการตำรวจฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ยังบอกด้วยว่าไม่คาดหมายจะได้รับการพิจารณาคดีด้วยความยุติธรรมในวันที่ 2 ธันวาคม
หว่อง วัย 24 ปี พร้อมกับ 2 แกนนำ อีแวน ลัม และ แอกเนส โจว ถูกศาลสั่งควบคุมตัวเข้าเรือนจำเพื่อรอกำหนดระวางโทษซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม ทำให้ดูจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่าพวกเขาจะเจอโทษจำคุก ทั้งนี้ ผู้มีความผิดฐานเข้าร่วมในการชุมนุมอย่างผิดกฎหมายอาจถูกลงโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี โดยขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของการกระทำความผิด อย่างไรก็ดี ศาลแขวงซึ่งเป็นสถานที่พิจารณาคดีนี้นั้น ปกติแล้วสามารถสั่งจำคุกจำเลยได้ไม่เกิน 3 ปี
ทั้งนี้ หว่อง เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ Die Welt ว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องขังเดี่ยวหรือพบปะกับนักโทษคนอื่นๆ รวมถึงห้ามเล่นกีฬาด้วย “เพราะแสงไฟในห้องขังสว่างจ้า 24 ชั่วโมง มันเป็นเรื่องยากที่ผมจะนอนหลับ” หว่อง เขียนจดหมายตอบจากเรือนจำ
“ผมจำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยปิดตาเพื่อจะได้นอนหลับ” หว่องเขียนในจดหมาย พร้อมบอกว่าไม่คาดหมายว่าจะได้รับการพิจารณาคดีที่ยุติธรรม และรู้สึกเหมือนตนเองเป็นผู้ต่อต้านในจีน “ผมสูญเสียความเชื่อมั่นในระบบกฎหมายนี้มานานแล้ว” หว่องระบุ
อย่างไรก็ตาม ในคำถามที่ว่า เมื่อเขาและนักเคลื่อนไหวคนอื่นๆ ถูกพิพากษาแล้ว ขบวนการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยจะยังเดินหน้าต่อไปหรือไม่ หว่องตอบว่า “ผมอยากบอกกับโลกว่า ขบวนการเคลื่อนไหวในฮ่องกงจะไม่หยุดชะงักเพียงเพราะ อีแวน ลัม และ แอกเนส โจว รวมถึงผมอยู่ในเรือนจำ”
หว่อง ยังบอกด้วยว่า เขามองจีนในฐานะภัยคุกคามเสรีภาพโลก “มหาวิทยาลัย สื่อมวลชนและบริษัทต่างๆ ทุกคนถูกบังคับให้ทำตามมาตรฐานจีน”
(ที่มา : รอยเตอร์)