รอยเตอร์/เอเอฟพี - ตำรวจเยอรมันแถลงวันนี้ (25 พ.ย.) ว่า สามารถจับกุมนักเคลื่อนไหวเยอรมันต่อต้านโลกาภิวัตน์ที่ขับรถที่มีข้อความด้านข้างตัวรถไม่ยอมรับในการเมืองสนับสนุนแนวความคิดนี้ พุ่งเข้าชนประตูหน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล โฆษกรัฐบาลยืนยัน ผู้นำเยอรมัน และคณะ ครม.ไม่ได้รับบาดเจ็บในเหตุที่เกิดขึ้น
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (25 พ.ย.) ว่า ภาพข่าวจากที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นว่า ตำรวจเยอรมันกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบรถคันที่ก่อเหตุซึ่งมีข้อความ “หยุดการเมืองโลกาภิวัตน์” ที่อยู่ด้านขวาของตัวรถ และอีกข้อความในอีกด้านคือ “คุณมันพวกแชมป์นักฆ่าเด็กๆ และผู้สูงอายุ”
เอเอฟพีรายงานว่า รถที่ก่อเหตุเป็นรถยนต์โฟลค์สวาเกนสีเขียว ที่ผู้ขับซึ่งดูเหมือนจงใจต้องการก่อเหตุเพื่อประท้วงได้เคยก่อเหตุมาแล้วก่อนหน้าตามรายงานของสื่อเยอรมันว่า เคยก่อเหตุขับพุ่งชนด่านตรวจความมั่นคงในปี 2014 โดยในเวลานั้นเป็นการก่อเหตุเพื่อประท้วงต่อต้านภาวะโลกร้อน
ทั้งนี้ ดูเหมือนตัวรถที่พุ่งชนประตูหน้าทำเนียบของนายกรัฐมนตรีเยอรมัน นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ไม่มีความเสียหายมากนัก โดยทางตำรวจแถลงว่า สามารถจับกุมตัวคนขับไว้ได้ โดยรอยเตอร์กล่าวว่า คนขับเป็นชายในวัยกลางคน ถูกจับให้นั่งอยู่ในรถวีลแชร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวออกไป
ตำรวจกรุงเบอร์ลินแถลงผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ในระหว่างนี้ทางเรากำลังตั้งสมมุติฐานว่าคนขับตั้งใจพุ่งชนหรือไม่” และเสริมต่อว่า “เขาอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจในเวลานี้”
ล่าสุด ตำรวจกรุงเบอร์ลินชี้ว่า คนขับที่ก่อเหตุอาจมีปัญหาทางจิตแต่ในเวลานี้ยังคงถูกตำรวจสอบปากคำและยังคงไม่ทราบแรงจูงใจก่อเหตุ
ขณะที่โฆษกรัฐบาลเยอรมันแถลงว่า “นายกรัฐมนตรีเยอรมัน และสมาชิกรัฐบาลคนอื่นๆ และเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังนั่งทำงานในทำเนียบนายกฯไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด” และเสริมต่อว่า เหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
รอยเตอร์ชี้ว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าในช่วงเกิดเหตุแมร์เคิลอยู่ด้านในสำนักงานทำเนียบหรือไม่ และในท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทำการเคลื่อนย้ายรถที่ก่อเหตุออกไป
ทั้งนี้ กรุงเบอร์ลินเป็นฐานของกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายที่ต่อต้านความเคลื่อนไหวโลกาภิวัตน์ ที่มีเป้าหมายเพื่อหยุดโปรเจกต์พัฒนาโดยบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ระดับโลก
วันพุธ (25) แมร์เคิลมีกำหนดประชุมกับผู้นำรัฐต่างๆ ในประเทศถึงการขยายมาตรการล็อกดาวน์และมาตรการอื่นๆ สำหรับการรับมือวิกฤตโควิด-19