รอยเตอร์ – รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้วันนี้(22 พ.ย)สั่งเพิ่มความเข้มงวดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม สั่งปิดบาร์และจำกัดการให้บริการในภัตตาคารและโบสถ์เพื่อควบคุมการระบาดรอบ 3 หลังล่าสุดพบเคสใหม่ 330 ราย
รอยเตอร์รายงานวันนี้(22 พ.ย)ว่า สำนักงานควบคุมโรคและการระบาดเกาหลีใต้ KDCA (Korea Disease Control and Prevention Agency) รายงานในวันอาทิตย์(22)ว่า ภายใน 24 ชั่วโมงซึ่งนับถึงพบเที่ยงคืนวันเสาร์(21)พบเคสโควิด-19 ใหม่จำนวน 330 ราย น้อยกว่าก่อนของวันก่อนหน้าที่มีรายงานการพบเคสใหม่ 386 ราย
อย่างไรก็ตามเกาหลีใต้มีเคสใหม่เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 300 คนมาแล้ว 5 วันติดต่อกัน
รัฐมนตรีสาธารณสุขเกาหลีใต้ พัก เนือง-ฮู (Park Neung-hoo)แถลงในรายงานสรุปวันอาทิตย์(22)ว่า “การระบาดโรคโควิด-19 รอบ 3 นั้นกำลังระบาดอย่างรวดเร็ว” และชี้ว่า “สถานการณ์เวลานี้นั้นมีความร้ายแรงและหนักมาก”
การระบาดทั่วประเทศเกิดขึ้นจาการระบาดแบบกระจุกตัวที่ย่านแหล่งหนาแน่นในกรุงโซลซึ่งมีประชากรอาศัยทั้งหมดราวครึ่งหนึ่งของประชากรทั่วประเทศ 52 ล้านคน
โดยในวันอังคาร(24) ร้านกาแฟทั่วกรุงโซลจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลูกค้านั่งในร้านแต่สามารถสั่งซื้อกลับบ้านได้ รวมไปถึงภัตตาคารจะปิดให้บริการนั่งรับประทานในร้านหลังจากเวลา 21.00 น.ไปแล้ว ส่วนมาตรการจำกัดอื่นจะถูกนำมาใช้ในศูนย์กีฬา และมีการกำหนดจำนวนสูงสุดของผู้เข้าโบสถ์และการแข่งขันกีฬา
ในช่วงต้นของวันนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ชุง ไซ-คยุน (Chung Sye-kyun) ออกแถลงในการประชุมรัฐบาลเกาหลีใต้ว่า มาตรการเว้นระยะทางสังคมแบบป้องกันอาจจำเป็นเพื่อทำให้การระบาดเป็นวงกว้างหมดไป อ้างอิงจากสำนักข่าวยอนฮับ
ทั้งนี้ในวันเสาร์(21) KDCA ออกมาเตือนว่า เกาหลีใต้อาจจะได้เห็นการระบาดรอบใหม่ที่ร้ายแรงกว่า 2 รอบที่ผ่านมาหากว่าทางรัฐบาลโซลยังไม่สามารถป้องกันได้ทัน
เกาหลีใต้ล่าสุดมียอดเสียชีวิตรวม 505 ราย และติดเชื้อรวม 30,733 คน