เอพี - เจ้าชายฟูมิฮิโตะ พระอนุชาของพระจักรพรรดินารูฮิโตะ ได้รับสถาปนาเป็นมกุฎราชกุมารญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ (8 พ.ย.) หลังจากการระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้ต้องเลื่อนพระราชพิธีนี้มานานถึง 7 เดือน รวมทั้งลดขนาดลง
พระราชพิธีสถาปนามกุฎราชกุมาร พระชนมายุ 54 พรรษา หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกขานว่า เจ้าชายอากิชิโนะ ทำให้ราชประเพณีการสืบราชสันติวงศ์ของราชวงศ์เบญจมาศครบถ้วนสมบูรณ์ โดยกระบวนการนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วที่เจ้าชายนารูฮิโตะขึ้นครองราชย์ หลังจากพระราชบิดาคือ พระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระชนมายุ 86 พรรษา ทรงสละราชสมบัติ
ภายในพระราชวังอิมพีเรียลในโตเกียว พระจักรพรรดินารูฮิโตะ พระชนมายุ 60 พรรษา ตรัสว่า นับจากนี้เจ้าชายฟูมิฮิโตะจะได้รับสถาปนาเป็นองค์รัชทายาทลำดับที่ 1 ตามบัญญัติในกฎมณเฑียรบาลของราชวงศ์ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นราชวงศ์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก
ทางด้านมกุฎราชกุมารฟูมิฮิโตะทรงยอมรับการสถาปนา และตรัสว่า จะปฏิบัติราชกรณียกิจที่ได้รับผิดชอบในฐานะรัชทายาท
เดิมทีนั้น พระราชพิธีนี้ที่ใช้เวลา 15 นาทีโดยประมาณ กำหนดไว้ในวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา แต่มีอันต้องเลื่อนหลังจากรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงต้นเดือนเดียวกันเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา
พระราชพิธีที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ยังถูกลดขนาดลงจากจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีเดิม 350 คน เหลือเพียงประมาณ 50 คน ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ของรัฐบาล ตลอดจนถึงตัวแทนจากจังหวัดต่างๆ และแขกผู้ทรงเกียรติต่างชาติบางคน
ในพระราชพิธีช่วงเย็น เจ้าชายฟูมิฮิโตะทรงรับมอบพระแสงประจำราชวงศ์ที่เป็นสัญลักษณ์สถานะมกุฎราชกุมาร
พิธีจัดเลี้ยงในพระราชวัง รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ เช่น การเปิดให้ประชาชนลงนามแสดงความยินดี ถูกยกเลิกเพื่อป้องกันโรคระบาด
การประกาศสถาปนามกุฎราชกุมารครั้งนี้ยังปูทางให้รัฐบาลเริ่มการหารือเพื่อหาแนวทางดำเนินการสำหรับกรณีการขาดแคลนรัชทายาท
การขึ้นครองราชย์ของพระจักรพรรดินารูฮิโตะทำให้ราชวงศ์ญี่ปุ่นเหลือรัชทายาทเพียง 2 องค์คือ เจ้าชายฟูมิฮิโตะ และเจ้าชายฮิซาฮิโตะ พระโอรสพระชนมายุ 14 พรรษา ขณะที่พระธิดาของพระจักรพรรดิคือ เจ้าหญิงไอโกะ พระชนมายุ 18 พรรษา และพระธิดาสององค์ของมกุฎราชกุมารคือ เจ้าหญิงมาโกะ และเจ้าหญิงคาโกะ ไม่สามารถสืบทอดราชบัลลังก์ได้เนื่องจากเป็นผู้หญิง
กฎมณเฑียรบาลของญี่ปุ่นที่อิงกับรัฐธรรมนูญยุคก่อนสงครามเป็นส่วนใหญ่ ไม่อนุญาตให้สมาชิกราชวงศ์ฝ่ายหญิงขึ้นครองราชย์ และสมาชิกราชวงศ์ที่เสกสมรสกับสามัญชนต้องพ้นสภาพจากราชวงศ์
ปี 2005 รัฐบาลในขณะนั้นได้พิจารณาความเป็นไปได้ในการอนุญาตให้รัชทายาทฝ่ายหญิงขึ้นครองราชย์ แต่การหารือสิ้นสุดลงไม่นานหลังจากที่เจ้าชายฮิซาฮิโตะประสูติในปีต่อมา ขณะที่ผลสำรวจพบว่า คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่สนับสนุนให้รัชทายาทฝ่ายหญิงขึ้นครองราชย์ได้ เนื่องจากเจ้าหญิงไอโกะทรงได้รับความนิยมจากประชาชนมากขึ้น
เมื่อเร็วๆ นี้ ซูงะเผยว่า รัฐบาลจะเริ่มศึกษาวิธีในการรักษาการสืบราชสันติวงศ์อย่างมั่นคงถาวรภายหลังการสถาปนามกุฎราชกุมาร
พระราชกรณียกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างการครองราชย์ของพระจักรพรรดิองค์ที่แล้วที่ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับประชาชน ซึ่งรวมถึงการเสด็จเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ทำให้พระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่ของประชาชน
ขณะเดียวกัน เจ้าชายฟูมิฮิโตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ที่มีท่าทีเปิดเผยที่สุด ทรงเห็นว่า ราชวงศ์ญี่ปุ่นควรปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ทั้งยังทรงเชื่อว่า สมาชิกราชวงศ์ควรรับผิดชอบพระกรณียกิจเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม อย่างไรก็ดี พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นว่า สมาชิกราชวงศ์ฝ่ายหญิงควรขึ้นครองราชย์ได้หรือไม่
ปัจจุบัน ราชวงศ์ญี่ปุ่นมีสมาชิกฝ่ายหญิง 13 องค์ ซึ่งรวมถึง 6 องค์ที่อาจเสกสมรสและพ้นสภาพจากราชวงศ์ในไม่กี่ปีนี้