ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาอ้างคว้าชัยในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิและเป็นรัฐที่เขาจำเป็นต้องได้รับชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันอังคาร (3 พ.ย.) แม้สื่อมวลชนอเมริกาชี้ว่าคะแนนสูสีกันอย่างมากจนยังไม่สามารถฟันธงได้
ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีออกมาอ้างชัยชนะผ่านทวิตเตอร์ แม้ในรัฐแห่งนี้ ซึ่งมีคณะผู้เลือกตั้ง 29 เสียง ยังคงอยู่ระหว่างการนับคะแนน อย่างไรก็ตาม นิวยอร์กไทม์ส สื่อมวลชนสหรัฐฯ ก็รายงานไปในทิศทางเดียวกัน ว่าโอกาสที่ ทรัมป์ จะได้รับชัยชนะในฟลอริดา มีถึง 95%
ทรัมป์ เคยเอาชนะ ฮิลลารี คลินตัว ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต อย่างฉิวเฉียด ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 ในรัฐฟลอริดา และในศึกเลือกตั้งคราวนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลหลายแห่ง พบว่าคะแนนิยมระหว่าง ทรัมป์ กับ โจ ไบเดน คู่คี่สูสีเช่นเดิม
ผลเลือกตั้งเบื้องต้นที่ออกมา สื่อมวลชนสหรัฐฯคาดหมายว่าประธานาธิบดีจากรีพับลิกัน จนถึงตอนนี้คว้าชัยชนะไปแล้ว 12 รัฐ ในนั้นรวมถึง รัฐเคนทักกี, อินดีแอนา, โอคลาโฮมา, เทนเนสซี และเวสต์เวอร์จิเนีย ซึ่งทั้งหมดเขาเคยได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016
ส่วน ไบเดน สามารถคว้าชัยได้แล้ว 10 รัฐ ในนั้นรวมถึง เดลาแวร์ รัฐบ้านเกิด, นิวยอร์ก อันเป็นรางวัลใหญ่, กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เช่นเดียวกับ คอนเนตทิคัต ซึ่งทั้งหมด ฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต เคยคว้าชัยในศึกเลือกตั้งปี 2016 เช่นกัน
จนถึงตอนนี้ ไบเดน มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งรวมแล้ว 117 คน ส่วนทรัมป์ได้ไป 80 คน ในขณะที่ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี จะต้องได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง
พวกนักสังเกตการณ์คาดหมายว่าการชิงชัยเก้าอี้ทำเนียบขาวที่คู่คี่สูสีในครั้งนี้ จะต้องไปตัดสินกันที่รัฐสมรภูมิสำคัญบางรัฐ โดยที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่ารัฐสมรภูมิของศึกเลือกตั้ง มีอยู่ 9 รัฐ ด้วยกัน ประกอบด้วย มิชิแกน, วิสคอนซิน, ไอโอวา, โอไฮโอ, เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, แอริโซนาและฟลอริดา
(ที่มา : เอเอฟพี)
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ล่าสุดของสื่อมวลชนสหรัฐฯ ประกอบด้วย ซีเอ็นเอ็น, ฟ็อกซ์นิวส์, เอ็มเอสเอ็นบีซี, เอบีซี, ซีบีเอสและนิวยอร์ก ไทมส์ ผลคะแนนหลังปีดหีบล่าสุดมีดังนี้
โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนรีพับลิกัน สามารถเก็บชัยชนะได้ในรัฐอินดีแอนา (มีคณะผู้เลือกตั้ง 11 คน), เคนทักกี (มีคณะผู้เลือกตั้ง 8 คน), โอคลาโอมา (มีคณะผู้เลือกตั้ง 7 คน, เทนเนสซี (มีคณะผู้เลือกตั้ง 11 คน), เวสต์เวอร์จิเนีย (มีคณะผู้เลือกตั้ง 5 คน), แอละแบมา (มีคณะผู้เลือกตั้ง 9 คน), อาร์คันซอ (มีคณะผู้เลือกตั้ง 6คน) , มิสซิสซิปปี (มีคณะผู้เลือกตั้ง 6 คน), ลุยเซียนา (มีคณะผู้แทน 8 คน), นอร์ทดาโคตา (มีคะแนนผู้แทน 3 คน), เซาต์ดาโคตา (มีคณะผู้แทน 3 คน), ไวโอมิง (มีคณะผู้แทน 3 คน)
ไจ โบเดน ตัวแทนรีพับลิกัน สามารถเก็บชัยชนะได้ในรัฐเวอร์มอนต์ (มีคณะผู้เลือกตั้ง 3 คน), เวอร์จิเนีย (มีคณะผู้เลือกตั้ง 13 คน), เดลาแวร์ (มีคณะผู้เลือกตั้ง 3 คน) วอชิงตัน ดี.ซี. (มีคณะผู้เลือกตั้ง 3 คน), แมสซาชูเซตส์ (มีคณะผู้เลือกตั้ง 11 คน), นิวเจอร์ซีย์ (มีคณะผู้เลือกตั้ง 14 คน), แมริแลนด์ (10 คน), คอนเนตทิคัต (มีคะแนนผู้เลือกตั้ง 7 คน), อิลลินอยส์ (มีคณะผู้เลือกตั้ง 20 คน), โรด ไอส์แลนด์ (มีคณะผู้แทนเลือกตั้ง 4 คน), นิวยอร์ก (มีคณะผู้เลือกตั้ง 29 คน)