xs
xsm
sm
md
lg

ภาพสลด! ลูกเจี๊ยบแน่นลังตายคาสนามบินสเปน 23,000 ตัว หลังถูกทิ้งในคลังสินค้า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลูกไก่ราว 23,000 ต้องมาตายอย่างน่าสลด หลังถูกทิ้งไว้ระหว่างเปลี่ยนเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานบาราคัส ของกรุงมาดริด ประเทศสเปน เป็นเวลาหลายวัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ที่เผยแพร่โดยตำรวจแห่งชาติสเปนเมื่อวันพุธ (7 ต.ค.) ระบุว่า ลูกเจี๊ยบเหล่านี้ ซึ่งมีอายุเพียงไม่กี่วัน ถูกทิ้งไว้ด้านนอกในลังกระดาษ ปราศจากน้ำและอาหาร เป็นเวลา 3 วัน

ตำรวจเผยว่า มีลูกไก่ทั้งหมด 26,000 ตัว แต่มีอยู่ 6,000 ตัว ตายตั้งแต่ตอนที่พวกเจ้าหน้าที่ไปถึง ส่วนพวกที่เหลือมีภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ และพยายามอยู่รอดด้วยการกินซากเพื่อนลูกเจี๊ยบที่ตายแล้ว แต่สุดท้ายก็ตายเพิ่มอีก 17,000 ตัว

ลูกเจี๊ยบเหล่านี้ถูกขนส่งในลังกระดาษแข็ง แต่มันอยู่ในสภาพเปื่อยยุ่ยฉีกขาด เนื่องจากเปียกฝน ส่งผลให้ไม่สามารถลำเลียงพวกมันสู่จุดหมายปลายทางได้ “การเน่าเปื่อยของลูกไก่ที่ตายแล้ว ส่งกลิ่นเหม็นมาก และทำให้สภาพแวดล้อมของตัวที่อยู่รอดเลวร้ายยิ่งขึ้นอีก” ข่าวประชาสัมพันธ์ของตำรวจระบุ


ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าลูกเจี๊ยบเหล่านี้กำลังถูกส่งไปที่ไหน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเกี่ยวกับชะตากรรมของลูกไก่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ และได้ติดต่อไปยังองค์กรพิทักษ์สัตว์ 2 แห่ง ได้แก่ Salvando Peludos และ ALBA ซึ่งทั้งสององค์กรได้ส่งทีมช่วยเหลือเข้ามาดูแลลูกไก่ทันทีในวันอาทิตย์ (4 ต.ค.)

เฟอร์นานโด ซานเชซ ประธานของ Salvando Peludos เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็น ว่า สถานการณ์ที่พบ ณ สนามบินนั้น พวกลูกไก่อยู่ในสภาพแออัดมาก และตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีใครแจ้งเหตุเร็วกว่านี้ “ผมหวังว่าจะไม่เห็นเหตุการณ์แบบนี้อีก”

ทั้ง 2 องค์กรร้องขอความช่วยเหลือประชาชนให้ร่วมปกป้องชีวิตลูกไก่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และทางซานเชซ เผยว่า พวกที่อยู่รอดราวๆ 3,200 ตัว ได้ถูกกระจายไปยังบ้านใหม่ของพวกมัน แต่ตัวอื่นๆ ยังทยอยตายไม่หยุด เนื่องจากความทุกข์ทรมานที่พวกมันต้องประสบตั้งแต่ยังเล็ก

ตำรวจเผยว่า ทางบริษัทผู้ดูแลสนามบิน ได้ติดต่อไปยังบริษัทขนส่งลูกไก่แล้ว แต่บริษัทขนส่งปฏิเสธรับผิดชอบพวกมัน และทิ้งพวกมันไว้ในอาคารคลังสินค้า

แม้เวลานี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน แต่ทางตำรวจระบุว่า พวกที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะถูกตั้งข้อหาทารุณสัตว์ “สิ่งที่เราทำคือ พยายามและสร้างความมั่นใจว่ามันจะไม่เป็นแบบนี้อีก สิ่งแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำ”

(ที่มา: ซีเอ็นเอ็น)


กำลังโหลดความคิดเห็น