วาฬอย่างน้อย 1 ใน 3 จากทั้งหมด 270 ตัวที่เกยตื้นชายฝั่งรัฐแทสมาเนียของออสเตรเลีย ตายแล้วและเกรงว่าจะมีอีกหลายตัวที่จะตายตามกันไป จากการเปิดเผยของทีมช่วยเหลือในวันอังคาร (22 ก.ย.) เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
เหตุฝูงวาฬเกยตื้นชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะแทสมาเนีย ถูกพบเมื่อวันจันทร์ (21 ก.ย.) จากนั้นบรรดานักชีววิทยาทางทะเลพยายามเข้าช่วยเหล่าวาฬนำร่องที่เหลือ ในปฏิบัติการยุ่งยากที่อาจต้องใช้เวลานานหลายวัน
เบื้องต้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอะไรคือสาเหตุทำให้ฝูงวาฬเกยตื้นชายฝั่งในครั้งนี้ ทั้งนี้การเกยตื้นฝั่งเกิดขึ้นเป็นประจำในพื้นที่ดังกล่าว แต่จำนวนวาฬเกยตื้นมากมายขนาดนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาตั้งแต่ปี 2009
บรรดานักวิทยาศาสตร์จากโครงการอนุรักษ์ทางทะเลแทสมาเนีย ระบุว่าวาฬถูกพบแยกกันเป็น 3 กลุ่มทั่วแมคควอรีเฮดส์ แหลมห่างไกลของเกาะ ซึ่งเข้าถึงได้ยากทั้งจากการเดินเรือหรือถนน
ทีมช่วยเหลือเดินทางถึงจุดเกิดเหตุในช่วงเย็นวันจันทร์ (21 ก.ย.) และพบเห็นวาฬอีกนับร้อยตัวที่อยู่ในสภาพอ่อนแอกว่าที่สังเกตเห็นครั้งแรกผ่านการบินขึ้นสำรวจทางอากาศ
ดอคเตอร์ คริส คาร์ลยอน นักีวิวทยาสัตว์ป่า เปิดเผยว่าการประเมินโดยสมบูรณ์ยังไม่ประสบความสำเร็จในวันอังคาร (22 ก.ย). เนื่องจากวาฬเกือบทั้งหมดเกยตื้นอยู่ในบริเวณเข้าถึงค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตามความพยายามช่วยชีวิตตัวแรกๆ ได้เริ่มลงมือแล้ว
รายงานข่าวระบุว่าวาฬราวๆ 200 ตัวเกยตื้นบริเวณสันทรายใกล้ที่จอดเรือ ส่วนอีก 30 ตัวพบห่างออกไปหลายร้อยเมตร และอีก 30 ตัวพบเกยตื้นตามแนวชายหาด ลึกเข้ามาในแผ่นดิน
สำหรับวาฬนำร่อง เมื่อโตเต็มวัย สามารถมีลำตัวยาวสูงสุดถึง 7 เมตรและมีน้ำหนักสูงสุด 3 ตัน โดยมันเดินทางเป็นฝูง และอพยพตามฤดูกาล ขึ้นลงตามแนวชายฝั่งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
พวกนักวิจัยบอกว่าการที่พวกมันทำตามผู้นำฝูงและมีความผูกพันทางสังคมกันอย่างแนบแน่น บ่อยครั้งที่ทำให้พวกมันว่ายขึ้นเกยตื้นชายหาดเป็นฝูง
ในนิวซีแลนด์ปี 2018 วาฬนำร่องมากกว่า 200 ตัวตายต่อเนื่องกันในช่วงระยะเวลา 1 สัปดาห์ หลังว่ายมาเกยตื้นแยกกันเป็นกลุ่มๆ ตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ
(ที่มา : บีบีซี)