หน่วยค้นหาและกู้ภัยระดมสุนัขดมกลิ่นค้นหาตามซากที่พักอาศัยที่ถูกไฟป่าเผาพินาศใน 3 รัฐเมื่อวันเสาร์ (12 ก.ย.) ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเดินทางไปดูสถานการณ์ความเสียหายที่แคลิฟอร์เนียในวันจันทร์ (14 ก.ย.)
ไฟป่าเผาผลาญบ้านเรือนหลายพันหลังและเมืองเล็กๆ หลายเมืองในวิกฤตไฟป่าครั้งล่าสุดในฤดูร้อนนี้ที่เกิดขึ้นในหลายรัฐทางตะวันตกของอเมริกา สร้างความเสียหายครอบคลุมพื้นที่พอๆ กับเมืองนิวเจอร์ซีย์และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คนนับจากต้นเดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ตาม หลังจากสภาพอากาศร้อนจัดติดต่อกัน 4 วัน ช่วงสุดสัปดาห์นี้ลมที่พัดจากมหาสมุทรแปซิฟิกเข้าสู่ชายฝั่งเริ่มเบาลง อากาศเย็นและชื้นขึ้น ช่วยให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงบุกบั่นต่อสู้ไฟป่าที่ก่อนหน้านี้ลุกลามเกินความควบคุมได้ง่ายขึ้น
เฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนในรัฐออริกอน เคต บราวน์ ผู้ว่าการรัฐ เผยว่า ยังมีผู้สูญหายอีกหลายสิบคนใน 3 เทศมณฑล
ที่แคลิฟอร์เนีย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายหมื่นคนต่อสู้กับไฟป่าขนาดใหญ่ใน 28 จุดเมื่อบ่ายวันเสาร์ โดยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยช่วยให้สามารถสกัดไฟป่าในพื้นที่ส่วนใหญ่ได้มากขึ้น
ทางด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน จะเดินทางไปรัฐแคลิฟอร์เนียในวันจันทร์เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
ทรัมป์เคยโยนความผิดว่า บรรดาผู้ว่าการรัฐทางด้านตะวันตกมีส่วนรับผิดชอบในเหตุไฟป่ารุนแรงที่เกิดขึ้นช่วงหลายปีมานี้ เนื่องจากบริหารจัดการป่าไม้ไม่ดี
โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า ปัญหาไฟป่าเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่นเดียวกับที่เกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ (11 ก.ย.) และเรียกร้องให้ผู้ที่เห็นต่างเดินทางไปดูสถานการณ์จริงในแคลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ นับจากวันแรงงาน (7 ก.ย.) พื้นที่แถบแปซิฟิกนอร์ธเวสต์เผชิญไฟป่าเผาผลาญรุนแรงจนท้องฟ้ามืดครึ้มด้วยควันหนาและเถ้าถ่าน และทำให้คุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลก ประชาชนต้องอยู่แต่ในบ้าน
เว็บไซต์ติดตามคุณภาพอากาศ เพอร์เพิลแอร์ ระบุว่า พาราไดซ์ เมืองเล็กๆ บนเขาในแคลิฟอร์เนียที่เกือบราบเป็นหน้ากลองเมื่อปี 2018 จากไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในรัฐ ล่าสุดดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 592 ซึ่งถือว่า แย่ที่สุดในโลก เพราะนอกจากเกิดไฟป่ารุนแรงในรัฐแล้ว สองรัฐที่ขนาบแคลิฟอร์เนียยังเกิดไฟป่าครั้งมโหฬารพร้อมกัน
เฉพาะในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา บ้านและสิ่งปลูกสร้างกว่า 4,000 แห่งในแคลิฟอร์เนียถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
ขณะเดียวกัน ทางด้านใต้ของรัฐออริกอน ชุมชนที่อยู่อาศัยมากมายกลายเป็นเถ้าถ่าน และรถเทรลเลอร์จอดเรียงรายยาวหลายกิโลเมตรบนทางหลวงที่ตัดเข้าสู่ชุมชนในฟินิกซ์และทาเลนต์ โมลัลลา ทางใต้ของตัวเมืองพอร์ตแลนด์ที่กลายเป็นเมืองร้างปกคลุมด้วยเถ้าถ่าน หลังประชาชนกว่า 9,000 คนได้รับคำแนะนำให้อพยพ มีเพียง 30 คนปฏิเสธที่จะทิ้งบ้าน
โมลัลลาเป็นด่านหน้าของเขตอพยพด้านเหนือและอยู่ห่างจากตัวเมืองพอร์ตแลนด์ 4.8 กิโลเมตร โดยเมื่อวันเสาร์เจ้าหน้าที่ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 22.00 น. เพื่อป้องกันอาชญากรรม
ที่พอร์ตแลนด์ เจ้าหน้าที่ปกครองเทศมณฑลมัลโนมาห์ตำหนิประชาชนที่ตั้งด่านตรวจบนถนนหลังมีการเผยแพร่ทฤษฎีสมรู้ร่วมบนโซเชียลมีเดียว่า สมาชิกกลุ่มแบล็ก ไลฟ์ แมตเทอร์หรือแอนติฟา จุดไฟเผาป่า พร้อมยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง