รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าเหตุระเบิดซึ่งทำให้ท่าเรือกรุงเบรุตพังวินาศสันตะโรเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) อาจเกิดจาก ‘การโจมตี’ แม้เบื้องต้นผู้นำเลบานอนจะระบุว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากสารวัตถุระเบิดซึ่งถูกเก็บเอาไว้ในโกดังมานานหลายปีก็ตาม
“สหรัฐฯ พร้อมจะให้ความช่วยเหลือเลบานอน” ผู้นำสหรัฐฯ แถลงต่อสื่อที่ทำเนียบขาว หลังเกิดเหตุระเบิดใหญ่ในเลบานอนที่คร่าชีวิตคนอย่างน้อย 78 คนและทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกนับพัน
“มันดูเหมือนเป็นการโจมตีที่เลวร้ายมาก” ทรัมป์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้ถาม ทรัมป์ ในเวลาต่อมาว่าคิดอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ก็ระบุว่าตนได้หารือกับนายพลสหรัฐฯ บางคนซึ่งมองว่าหายนะคราวนี้ไม่น่าจะใช่อุบัติเหตุทางอุตสาหกรรม “พวกเขาเหมือนจะเชื่อว่ามันเป็นการโจมตีด้วยระเบิดสักชนิดหนึ่ง”
ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็น และโยนคำถามกลับไปที่ทำเนียบขาวแทน
เจ้าหน้าที่อเมริกัน 2 คนผู้ไม่ประสงค์ออกนามระบุว่า ไม่รู้ว่า ทรัมป์ ไปได้ข้อมูลมาจากไหน แต่เบื้องต้นยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นจะเป็นการก่อวินาศกรรม
ประธานาธิบดี มิเชล อูน แห่งเลบานอนเปิดเผยว่ามีสารแอมโมเนียมไนเตรตราว 2,750 ตันถูกเก็บเอาไว้ที่ท่าเรือแห่งนี้มานาน 6 ปี โดยปราศจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้” ขณะที่นายกรัฐมนตรี ฮัสซัน ดิอาบ ก็ยืนยันผ่านสื่อโทรทัศน์ว่าเหตุระเบิดที่โกดังอันตรายแห่งนี้ “จะต้องมีคนรับผิดชอบ”