เอเจนซีส์ - บริษัทโบอิ้งเดินหน้ายุติการผลิตเครื่องบินโบอิ้ง 747 หลังจากยืนยงมานานร่วม 50 ปี หลังสายการบินหันมายกเลิกสั่งจอง หันไปหาเครื่องบินรุ่นเล็กลง ที่สามารถประหยัดน้ำมันมากกว่าแทน การตัดสินใจปิดฉากเกิดขึ้นท่ามกลางอุตสาหกรรมการเดินทางอากาศได้ผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิด-19
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานวันศุกร์ (3 ก.ค.) ว่า บริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ กำลังที่จะหยุดการผลิตเครื่องบินจัมโบ้เจ็ตโบอิ้ง 747 ลง ท่ามกลางวิกฤตอย่างหนักเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการเดินทางอากาศที่เกิดจากการระบาดไวรัสโคโรนาไปทั่วโลก
ซึ่งในเวลานี้ทั่วทั้งโลกมีเครื่องบินจัมโบ้เจ็ตโบอิ้ง 747 อยู่ราว 356 ลำ ที่อยู่ในการบิน
อ้างอิงจากบลูมเบิร์ก สื่อธุรกิจรายงานว่า เครื่องรุ่น 747-8 ชุดสุดท้าย จะออกมาจากฐานการผลิตที่เมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ในอีก 2 ปีข้างหน้า
โฆษกบริษัทโบอิ้งรายงานแถลงกับรอยเตอร์ว่า “จากอัตราการผลิต 0.5 เครื่องบิน/เดือน ทำให้โครงการโบอิ้ง รุ่น 747-8 ต้องใช้เวลาการผลิตมากกว่า 2 ปี ก่อนคำสั่งซื้อเพื่อให้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้าในปัจจุบันของเรา
และกล่าวต่อว่า “เราจะยังคงทำการตัดสินใจอย่างถูกต้อง เพื่อให้สายการผลิตยังคงมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า”
ทั้งนี้ ในปี 2016 โบอิ้งเคยออกมาประกาศว่า ทางบริษัทสามารถยุติการผลิตเครื่องรุ่น 747 ท่ามกลางการตกลงของยอดสั่งจองและความกดดันจากราคา และสายการบินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯเป็นต้นว่า ยูไนเต็ดคอนติเนตัล โฮลดิงส์ (United Continental Holdings )และเดลต้า แอร์ไลน์ส (Delta Air Lines) ยกเลิกการใช้เครื่องโบอิ้ง 747 ไปก่อนหน้าแล้ว
หลังจากที่โบอิ้ง 747 เปิดตัวมาเมื่อกุมภาพันธ์ 1969 และได้ฉายาว่า ราชินีแห่งท้องฟ้า พบว่าในเวลานี้สายการบินทั่วโลกต่างหันมาหาเครื่องบินลำเล็กลง และมีการใช้น้ำมันประหยัดมากขึ้น สำหรับเที่ยวบินทางไกล
สายการบินชื่อดังเป็นต้นว่า บริติชแอร์เวย์ส ซึ่งถือเป็นลูกค้าใหญ่สุดของจัมโบ้เจ็ต แต่ทว่าเวลานี้มีเครื่อง 747 บิน ทำการ 34 ลำ และอยู่ในโรงเก็บอีก 36 ลำ ภายในปี 2024 บริติชแอร์เวย์สจะปลดทำการฝูงบินโบอิ้ง 747 เดลีเมลรายงาน
ขณะที่สายการบินดัตช์ KLM กำลังเตรียมที่จะปลดระวางเช่นกัน ส่วนสายการบินคาเธย์ แปซิฟิก และสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส ต่างใช้เครื่องบินรุ่นนี้เป็นเครื่องบินคาร์โก้ขนสินค้า
สื่ออังกฤษรายงานว่า บริษัทโบอิ้งจะยังคงการผลิตเครื่อง 747 ต่อไป สำหรับฝูงบินคาร์โก้ และสำหรับลูกค้าเฉพาะราย รวมไปถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้เจาะจงเลือกใช้เครื่องบินรุ่น 747 ที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษสำหรับเป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซวันนับตั้งแต่ปี 1990