เอเอฟพี - สภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (Indian Council of Medical Research) ยืนยันวานนี้ (26 พ.ค.) ว่า ยังคงสนับสนุนการใช้ยาต้านมาลาเรีย “ไฮดร็อกซีคลอโรควิน” เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศระงับการทดลองทางคลินิกของยาตัวนี้ในผู้ป่วยโควิด-19 เนื่องจากพบผลข้างเคียงที่อันตราย
คำรับรองจาก (ICMR) มีขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาเผยว่าตัวเขาเองก็รับประทานยาชนิดนี้เพื่อ “ป้องกัน” โควิด-19
พลราม ภาร์กาวา ผู้อำนวยการ ICMR ระบุว่า จากผลการวิจัยโดยสังเกตและงานวิจัยแบบมีกลุ่มควบคุมในอินเดีย พบว่า การรับประทานยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน โดยมุ่งผลเพื่อการป้องกัน (prophylactic) “ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง” แม้จะพบอาการคลื่นไส้อาเจียนและใจสั่นบ้างก็ตาม
สัปดาห์ที่แล้ว ICMR ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลอินเดียในการตอบสนองวิกฤตโควิด-19 ได้ขยายคำแนะนำให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่ปฏิบัติงานอยู่แนวหน้าสามารถรับประทานไฮดร็อกซีคลอโรควินติดต่อกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อป้องกันติดเชื้อ โดยจะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเข้มงวด
“เราแนะนำให้รับประทานยาตัวนี้เพื่อการป้องกันได้ เนื่องจากไม่มีอันตราย และอาจจะมีประโยชน์อยู่บ้างด้วยซ้ำ” ภาร์กาวา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมยืนยันว่า ICMR ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วว่าการใช้ยาตัวนี้มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่า บุคลากรทางการแพทย์ที่รับประทานยาตัวนี้ยังจำเป็นที่จะต้องสวมชุดป้องกันระหว่างปฏิบัติงาน
ผลการศึกษาซึ่งเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ The Lancet เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (22) เตือนว่า การให้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควินยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ผู้ป่วยโควิด-19 จะอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวทำให้ WHO ออกมาประกาศระงับการทดลองใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควินในผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกเมื่อเมื่อวันจันทร์ (25)
คำแนะนำทางคลินิกของอินเดียกำหนดให้แพทย์สามารถจ่ายยาไฮดร็อกซีคลอโรควินได้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงถึงขั้นต้องรักษาตัวในห้องไอซียู
จากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์บ่ายวันนี้ (27) อินเดียซึ่งเป็นแหล่งผลิตยาไฮดร็อกซีคลอโรควินประมาณ 70% ของโลกมีผู้ติดเชื้อโควิดสะสมรวมทั้งสิ้น 151,876 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4,346 ราย
อินเดียได้เร่งการผลิตไฮดร็อกซีคลอโรควินเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจาก ทรัมป์ ออกมาโฆษณาว่ายาตัวนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันและรักษาโควิด-19