รอยเตอร์ - เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.1 แมกนิจูด ทางตอนเหนือของอิหร่าน ในช่วงกลางดึกวันศุกร์ (8 พ.ค.) ทำให้ประชาชนในกรุงเตหะรานวิ่งแตกตื่นออกจากที่พักอาศัย และมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย
แผ่นดินไหวระลอกนี้ ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 38 คน และเกิดอาฟเตอร์ช็อกติดตามมาอีกเกือบ 50 ครั้ง บริเวณรอยต่อของจังหวัดเตหะราน และ มาซานดารัน ทว่า ไม่ได้ก่อความเสียหายรุนแรง
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่บริเวณฝั่งใต้ของภูเขาดามาวันด์ (Mount Damavand) ซึ่งเป็นภูเขาสูงที่สุดในอิหร่าน
แม้ภูเขาสูง 5,761 เมตรลูกนี้จะเป็นภูเขาไฟ แต่เจ้าหน้าที่อิหร่านยืนยันว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากกิจกรรมของภูเขาไฟ
หัวหน้าศูนย์แผ่นดินไหววิทยาของอิหร่าน ระบุว่า จากการตรวจสอบพบอาฟเตอร์ช็อกแรงสุดเพียง 3.9 แมกนิจูด ซึ่งทำให้สบายใจได้ว่าแผ่นดินไหว 5.1 น่าจะเป็นเมนช็อก และคงจะไม่เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงกว่านี้ตามมา ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายต่อเมืองหลวงเตหะราน
เจ้าหน้าที่อิหร่านเตือนประชาชนที่ออกมาอยู่นอกบ้าน เพราะกลัวอาฟเตอร์ช็อกให้ยังคงเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดในวันนี้ (9) พบว่า ไวรัสได้คร่าชีวิตชาวอิหร่านไปแล้วกว่า 6,500 คน และมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศ 104,691 คน
สำหรับเหยื่อ 2 ราย ในเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ รายแรกเป็นหญิงวัย 21 ปี ในกรุงเตหะราน ซึ่งเกิดภาวะหัวใจวาย ส่วนรายที่สอง เป็นชายวัย 60 ปี ในเมืองดามาวันด์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะจนเสียชีวิต
แรงสั่นสะเทือนยังทำให้เกิดรอยร้าวบนกำแพงของพระราชวังซาเฮบกอรานีเยห์ (Sahebqaraniyeh Palace) หนึ่งในพระราชวังที่หรูหรายิ่งใหญ่ที่สุดในยุคราชวงศ์กอญัร (Qajar) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเตหะราน
อิหร่านตั้งอยู่เหนือรอยเลื่อนที่ยังมีพลังจำนวนมาก และจัดเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
แผ่นดินไหวขนาด 6.6 ที่จังหวัดเคอร์มาน เมื่อปี 2003 ได้คร่าชีวิตชาวอิหร่านไปมากถึง 31,000 คน และทำให้เมืองบาม (Bam) ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์พังราบเป็นหน้ากลอง
