เอเอฟพี - ร้านค้าและตลาดทั้งหลายทั่วฝรั่งเศสจะสามารถกลับมาเปิดบริการได้ในวันที่ 11 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่รัฐบาลจะเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์สกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรี เอดูอาร์ด ฟิลิปป์ ในวันอังคาร (28 เม.ย.)
อย่างไรก็ตาม ฟิลิปป์ บอกว่า สถาบันการศึกษาจะต้องเปิดการเรียนการสอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป และประชาชนจะถูกบังคับให้สวมหน้ากากยามที่อยู่บนระบบขนส่งสาธารณะ “เราต้องปกป้องฝรั่งเศส หากปราศจากมาตรการจำกัดความเคลื่อนไหว ฝรั่งเศสอาจอยู่ในจุดที่ล่มสลาย” เขากล่าวต่อสมัชชาแห่งชาติหรือรัฐสภา
ฟิลิปป์ กล่าวต่อว่า มาตรการหยุดอยู่บ้านช่วยชะลอการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ และปกป้องชีวิตหลายหมื่นคน แต่ก็จำเป็นต้องเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างหนัก หลังตกอยู่ในภาวะหยุดนิ่งมานาน 8 สัปดาห์
ในการประชุมสภาครั้งนี้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าร่วมเพียง 75 จากทั้งหมด 577 คน และแต่ละคนนั่งเว้นระยะห่างมีเก้าอี้เปล่าคั่นกลางอยู่หลายตัว ตามกรอบมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
ร้านค้าต่างๆ และตลาดสดจะได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดบริการอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม เป็นต้นไป ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างอันเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนรวมตัวอยู่ในสถานที่หนึ่งๆ ในเวลาเดียวกันมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารและบาร์จะบังคงต้องปิดบริการต่อไป เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่, โรงละคร, โรงภาพยนตร์และอาคารจัดแสดงคอนเสิร์ต
โรงเรียนประถมและศูนย์รับเลี้ยงเด็กจะสามารถกลับมาเปิดทำการอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม ตามด้วยโรงเรียนประถมในสัปดาห์ถัดไป แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนประถมและสถานรับเลี้ยงเด็กในพื้นต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ซึ่งยังต้องปิดทำการ
ฟิลิปป์ บอกว่า การตัดสินใจอนุญาตให้เปิดร้านอาหาร, คาเฟ่ และโรงเรียนมัธยม จะมีการพิจารณากันอีกครั้งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
สวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์สามารถเปิดได้เฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีไวรัสวนเวียนอยู่ และชายหาดต่างๆ ยังจะถูกห้ามเข้าไปจนถึงวันที่ 1 มิถุนายน
สำหรับประชาชนที่สามารถเลือกทำงานจากที่บ้าน ก็ขอให้ทำงานจากที่บ้านต่อไปหลังวันที่ 11 พฤษภาคม เป็นเวลาอย่างน้อยๆ อีก 3 สัปดาห์ และฟิลิปป์ ได้ออกหนังสือถึงบริษัทต่างๆ ร้องขอให้เคารพต่อคำสั่งดังกล่าว
แต่ในส่วนของพนักงานที่ไม่สามารถเลือกทำงานจากที่บ้านได้ ระบบขนส่งมวลชนจะมีให้บริการอย่างจำกัด แต่ผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัย
นายกรัฐมนตรีรายนี้ให้คำรับประกันว่า จะมีหน้ากากเพียงพอสำหรับทุกคนตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคมเป็นต้นไป และเผยว่า ฝรั่งเศสมีศักยภาพในการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อยู่ที่ 700,000 คนต่อสัปดาห์ โดยคนที่มีผลตรวจออกมาเป็นบวกจะถูกแยกโรค และจะมีการติดตามบุคคลสัมผัสใกล้ชิดเพื่อตรวจเชื้อเช่นกัน
โบสถ์และมัสยิดต่างๆ ก็จะได้รับอนุญาตให้เปิดทำการเช่นกัน แต่ไม่อนุญาตให้มีพิธีทางศาสนาจนกว่าจะถึงวันที่ 2 มิถุนายน ขณะเดียวกัน ยังห้ามมีคนร่วมพิธีศพเกิน 20 คน และงานแต่งงานจำเป็นต้องงดไปก่อนในช่วงนี้
นอกจากนี้แล้ว การรวมตัวของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สาธารณะ หรือที่พักอาศัยส่วนตัว จะถูกจำกัดไว้ที่ไม่เกิน 10 คน “เราจำเป็นต้องเรียนรู้ในการใช้ชีวิตร่วมกับไวรัส” เขากล่าว เนื่องด้วยจนถึงตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือวิธีรักษาที่ได้ผลใดๆ
เขาเตือนว่า อาจมีการขยายล็อกดาวน์ออกไปในนาทีสุดท้าย และเรียกร้องประชาชนปฏิบัติตามกฎระเบียบกักตัวเองอยู่ในแต่บ้าน เพื่อที่จะไม่โหมกระพือการแพร่ระบาดระลอกใหม่
“เป้าหมายของรัฐบาล คือ จำกัดอัตราผู้ติดเชื้อใหม่รายวันให้เหลือ 3,000 คน ภายในวันที่ 11 พฤษภาคม” เขากล่าว แต่หากว่าข้อจำกัดนี้ถูกละเมิด “มาตรการกักกันจะไม่ถูกยกเลิกในวันที่ 11 พฤษภาคม และบางทีเราอาจจะยกระดับความเข้มข้นขึ้นด้วย”
