รอยเตอร์ - ทางการจังหวัดนางาซากิของญี่ปุ่น ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างน้อย 33 ราย บนเรือสำราญสัญชาติอิตาลี “คอสตา แอตแลนติกา” (Costa Atlantica) ที่กำลังจอดซ่อม พร้อมร้องขอให้รัฐบาลกลางเข้ามาช่วยจัดการวิกฤตสาธารณสุขระลอกใหม่นี้
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่า ลูกเรือต่างชาติคนหนึ่งได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) ขณะที่คนบนเรือ 33 คน จากทั้งหมด 56 คน ที่เคยสัมผัสใกล้ชิดก็มีผลตรวจไวรัสเป็นบวก
โฮโดะ นากามุระ ผู้ว่าการจังหวัดนางาซากิ เรียกร้องให้ทั้งรัฐบาลกลางญี่ปุ่น, จังหวัด และเมืองนางาซากิ มีมาตรการตอบสนองอย่างเร่งด่วนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์นี้
“บนเรือมีผู้ติดเชื้ออยู่เป็นจำนวนมาก และเราไม่มีระบบการแพทย์ที่จะสามารถยืนยันสถานการณ์ หรือคัดแยกระหว่างผู้ที่ป่วยและไม่ป่วย” นากามุระ กล่าว
“เราจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อลงจากเรือ และเป็นเรื่องยากสำหรับทางจังหวัดที่จะเข้าไปทำการฆ่าเชื้อ จึงอยากจะขอให้รัฐบาลกลางเข้ามาช่วยเหลือในจุดนี้ด้วย”
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ นางาซากิ ได้ร้องขอความช่วยเหลือผ่านไปยัง โยชิฮิเดะ สุงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแล้ว
เรือสำราญ คอสตา แอตแลนติกา ซึ่งบริหารงานโดยบริษัท คอสตา ครูสส์ เอสพีเอ ถูกส่งมายังอู่ซ่อมเรือในเมืองนางาซากิเมื่อปลายเดือน ก.พ. พร้อมกับลูกเรือทั้งหมด 623 คน และไม่มีผู้โดยสาร
เดิมทีเรือลำนี้จะถูกส่งไปซ่อมในจีน ทว่า มิตซูบิชิ ชิปบิลดิงส์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ ได้ตกลงรับคำสั่งซ่อมแทน เนื่องจากเกิดวิกฤตไวรัสโคโรนาระบาดในแดนมังกร
นากามุระ ระบุว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขญี่ปุ่นจะทำการตรวจสุขภาพลูกเรือที่เหลืออยู่ทั้งหมด โดยผู้ติดเชื้อที่มีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีอาการเลย จะต้องพักอยู่บนเรือต่อไปเพื่อเฝ้าดูอาการ ส่วนผู้ที่อาการรุนแรงจะถูกส่งต่อไปยังสถานพยาบาล และสำหรับผู้ที่ไม่ติดเชื้อจะถูกส่งกลับไปยังประเทศบ้านเกิด
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานไปยังรัฐบาลอิตาลี และได้ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดไปยังเรือ คอสตา แอตแลนติกา แล้ว