เอเอฟพี - ตำรวจฝรั่งเศสปะทะกับผู้ประท้วงบริเวณแถบชานกรุงปารีสอย่างน้อยๆ 5 จุดเมื่อคืนวันอาทิตย์(19เม.ย.) หลังพวกชาวบ้านกล่าวหาบรรดาเจ้าหน้าที่ใช้แนวทางเข้มงวดเกินเหตุในการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ ควบคุมการพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19)
พวกชาวบ้านรวมตัวกันเผารถยนต์และยิงพลุไฟเข้าใส่ตำรวจ กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ต้องตอบโต้ด้วยกระสุนยางและแก๊สน้ำตา ในย่านวิลนูเว ลา กาเรนน์ และ โอลเน่ ซู บัว แถบชานเมืองทางเหนือของกรุงปารีส จากการเปิดเผยของตำรวจในวันจันทร์(20เม.ย.) หลังประชาชนไม่พอใจเจ้าหน้าที่บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์รับมือโควิด-19 รุนแรงเกินเหตุ
เหตุความรุนแรงเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันเสาร์(18เม.ย.) หลังผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รายหนึ่งได้รับบาดเจ็บระหว่างการตรวจเช็กของตำรวจในย่านวิลนูเว ลา กาเรนน์ เหตุการณ์ซึ่งกระตุ้นให้ผู้คนมารวมตัวกัน จากนั้นสถานการณ์ก็ลุกลามบานปลายกลายเป็นการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับพวกชาวบ้าน โดยตำรวจอ้างว่าคนกลุ่มนี้ใช้พลุจรวดยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ระหว่างการเผชิญหน้าที่ยืดเยื้อนานกว่า 2 ชั่วโมง
รายงานข่าวระบุว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับรถชนประตูรถตำรวจที่เปิดอยู่จนได้รับบาดเจ็บหนัก จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดขา ขณะที่พวกชาวบ้านกล่าวหาว่าประตูรถตำรวจถูกเปิดออกมาโดยเจตนาเพื่อให้รถจักรยานยนต์พุ่งชน
ครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บและทนายความของเขาเปิดเผยกับเอเอฟพีว่าชายวัย 30 ปีรายนี้ได้ยื่นดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว และทางอัยการก็เปิดการสืบสวนแล้วเช่นกัน
กลุ่มสิทธิมนุษยชน SOS Racisme ขอให้เจ้าหน้าที่เปิดเผยรายละเอียดของเหตุการณ์อย่างครบถ้วนและเรียกร้องตำรวจอดทนอดกลั้นในช่วงเวลาของการกักกันโรคซึ่งเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่าในตอนเช้าวันจันทร์(20เม.ย.) สถานการณ์ในวิลนูเว ลา กาเรนน์ กลับสู่ความสงบแล้ว หลังจากมีเหตุเผชิญหน้ากับตำรวจมา 2 คืนติด
นอกจากนี้แล้วยังมีรายงานการเผชิญหน้าที่ย่านโอลเน่ ซู บัว ซึ่งอยู่ใกล้กัน โดยจุดนี้ตำรวจอ้างว่าพวเขาถูกชาวบ้านซุ่มใช้พลุจรวดไฟยิงเข้าใส่ในเขตที่มีประชาชนพักอาศัยอยู่หนาแน่น พร้อมเผยว่าได้ทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยไปอย่างน้อย 4 คน
ขณะเดียวกันปัญหาความไม่พอใจของประชาชนยังลุกลามไปยังแถบชานเมืองอีกอย่างน้อย 3 แห่งในวิลนูเว ลา กาเรนน์ ด้วยเจ้าหน้าที่ถูกขว้างปาพลุจรวดเข้าใส่เช่นกัน และมีการจุดไฟเผาถังขยะสร้างความสับสนอลหม่าน
รวมแล้วทั่วแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงปารีส มีรายงานรถยนต์ราวๆ 15 คันถูกวางเพลิงและถังขยะราว 50 ถังถูกจุดไฟเผา และหลายคนถูกจับกุม
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน อัยการได้เปิดการสืบสวนเหตุเสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจควบคุมของชายวัย 33 ปีคนหนึ่ง หลังเขาถูกจับกุมตามข้อกล่าวหาละเมิดมาตรการกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านซึ่งกำหนดโดยรัฐบาล เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ตำรวจอ้างว่าชายคนนี้ขัดขืนการจับกุม แต่พี่สาวผู้เสียชีวิตบอกว่าเขามีปัญหาทางจิต