เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ - ผู้โดยสารหลายคนบนเรือเฟอร์รีลำหนึ่งของอินโดนีเซีย ตัดสินใจกระโดดลงทะเล และว่ายน้ำเข้าฝั่ง หลังเจ้าหน้าที่กำลังหาทางขัดขวางเรือลำนี้ไม่ให้เข้าจอดเทียบท่า ท่ามกลางความกังวลต่อเคสต้องสงสัยติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) บนเรือ เหตุการณ์ที่สะท้อนถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในประเทศแห่งนี้ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะ
เรือเฟอร์รีลำนี้ซึ่งสัญจรระหว่างเกาะบอร์เนียว กับเกาะสุลาเวสี ของอินโดนีเซีย ถูกขัดขวางตอนที่พยายามเข้าเทียบท่าที่เมืองเมาเมเร บนเกาะฟลอเรส ท่ามกลางความกังวลว่าอาจมีคนบนเรือ 3 ราย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ด้วยความหวาดวิตกต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 พวกชาวบ้านในเมืองเมาเมเร จึงมารวมตัวกันที่ท่าเรือเพื่อประท้วงคัดค้านไม่ให้เรือเฟอร์รีลำนี้เข้าเทียบท่าเมื่อวันอังคาร (7 เม.ย.)
พอเวลาผ่านไปผู้โดยสารหลายคนหมดความอดทน ตัดสินใจกระโจนลงทะเลไป พร้อมกับเสื้อชูชีพและว่ายน้ำเข้าฝั่ง ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ยังคงถกเถียงกันว่าจะอนุญาตให้เรือลำนี้เข้าเทียบท่าหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเรือลำนี้ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าเทียบท่า และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในชุดป้องกันเชื้อโรคได้เข้าตรวจเชื้อทุกคน ก่อนเคลื่อนย้ายผู้โดยสารไปกักกันโรคบนบกต่อไป แต่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าพวกผู้โดยสารที่กระโดดลงทะเลว่ายน้ำเข้าฝั่งเองนั้นได้รับการตรวจเชื้อหรือไม่ หรือถูกดำเนินการอย่างไร เนื่องจากในรายงานข่าวไม่ได้พาดพิงถึงพวกเขา
“เราขอให้ผู้โดยสารให้ความร่วมมือกับกฎระเบียบด้านสาธารณสุขก่อนลงเรือ และอดทนอดกลั้นจากพฤติกรรมใดก็ตามที่อาจก่ออันตราย” วิสนุ ฮันโดโค เจ้าหน้าที่ประจำกระทรวงคมนาคมระบุในถ้อยแถลง
เรือเฟอร์รีลำนี้บรรทุกลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 225 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่เดินทางกลับมาจากมาเลเซีย หลังจากชาติเพื่อนบ้านกำหนดมาตรการล็อกดาวน์ประเทศ
จนถึงวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) อินโดนีเซีย พบผู้ติดเชื้อแล้ว 3,293 คน ในนั้นเสียชีวิต 280 ราย โดยเคสผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในกรุงจาการ์ตา แต่จำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดอื่นๆก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เวลานี้การตรวจโรคลูกเรือและผู้โดยสารของเรือเฟอร์รีลำดังกล่าว ถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการแห่งนี้บนเกาะชวา และคาดหมายว่า ผู้โดยสารและลูกเรือคงต้องถูกกักกันโรคเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จนกว่าผลตรวจจะออกมา
