เอเจนซีส์ - ลินดา ทริปป์ อดีตเจ้าหน้าที่เพนตากอนซึ่งเป็นคนแอบบันทึกการสนทนาของโมนิกา ลูวินสกี อดีตเด็กฝึกงานทำเนียบขาวจนนำไปสู่การถอดถอนอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เมื่อปี 1998 ป่วยหนักระยะสุดท้ายและได้เสียชีวิตในวันพุธ (8 เม.ย.) แต่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 เธอมีอายุรวม 70 ปี
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ สรายงานเมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) ว่า ลินดา ทริปป์ (Linda Tripp) ซึ่งเคยทำงานให้กับทั้งทำเนียบขาวและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สร้างวีรกรรมเป็นที่จดจำไปทั่ว หลังจากเธอได้แอบอัดเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ของอดีตเจ้าหน้าที่ฝึกงานทำเนียบขาวที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ่งกับผู้นำสหรัฐฯ โมนิกา ลูวินสกี และนำมาสู่การถอดถอนอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตันในปี 1998
ทั้งนี้ โจเซฟ เมอร์ธา (Joseph Murtha) ทนายความของทริปป์ ได้ยืนยันข่าวการเสียชีวิตของเธอ แต่ไม่เปิดเผยในรายละเอียด
ขณะที่ โทมัส โฟลลีย์ (Thomas Foley) บุตรเขยของทริปป์ ออกมายืนยันกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ของสหรัฐฯว่า เธอได้เสียชีวิตจากโรคแต่ไม่ใช่โรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในสหรัฐฯ โฟลลีย์ได้กล่าวถึงทริปป์ว่าเป็นบุคคลพิเศษและเป็นคุณยายที่ทุ่มเทให้กับครอบครัว
บุตรสาวของทริปป์ ออลลิสัน ทริปป์ โฟลีย์ (Allison Tripp Foley) ได้กล่าวผ่านแฟซบุ๊กในช่วงค่ำวันอังคาร(7)ว่า มารดาวัย 70 ปี ป่วยในระยะสุดท้าย “พวกเราเหมือนเป็นพี่น้อง ดิฉันรักท่าน ดิฉันรู้สึกหัวใจสลายในเวลานี้” ไดแอนน์ สเปรดบิวรีย์ (Diane Spreadbury) เพื่อนสนิทของทริปป์กล่าว เดลีเมล์ สื่ออังกฤษรายงาน
ทั้งนี้ พบว่าทริปป์เป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในปี 1977 ในระหว่างที่เธอได้แอบบันทึกการสนทนาของลูวินสกี ที่ได้เปิดเผยกับเธอถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน โดยในเวลานั้นลูวินสกีมีอายุ 22 ปี และหลังจากนั้นทริปป์ได้นำเสียงสนทนาที่มีความยาวกว่า 22 ชั่วโมง มอบให้อัยการพิเศษสหรัฐฯ เคน สตาร์ (Ken Starr) และส่งผลทำให้คลินตันกลายเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ถูกดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ ทริปป์ออกมายืนยันว่าเธอได้แอบอัดเทปลับเสียงสนทนาเนื่องมาจากความรักในชาติเป็นหลัก พบว่าเธอเคยทำงานที่ทำเนียบขาวให้กับอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช.ดับเบิลยู บุช ผู้ลูก และทำงานที่ทำเนียบขาวช่วงสั้นๆ ในสมัยคลินตันก่อนที่จะถูกย้ายไปประจำที่เพนตากอน และในมกราคม 2001 เธอถูกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้ออกจากงานซึ่งเป็นวันสุดท้ายของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และหลังจากนั้นทริปป์ได้ฟ้องดำเนินคดีต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลการว่าจ้างและความมั่นคงของเธอต่อสื่ออเมริกัน และได้รับการตัดสินประนีประนอมด้วยตัวเลข 600,000 ดอลลาร์ รวมถึงการจ่ายเงินเดือนย้อนหลัง 3 ปี นิวยอร์กไทม์สชี้
ช่วงต้นวันพุธ (8) หลังที่สื่อต่างรายงานว่าทริปป์ป่วยหนัก พบว่า โมนิกา ลูวินสกี ได้กล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ไม่ว่าอดีตจะเป็นอย่างไร แต่จากการที่ได้ยินว่า ลินดา ทริปป์ ป่วยหนัก ดิฉันหวังว่าเธอจะหายดี ดิฉันไม่สามารถจินตนาการได้ถึงความยากลำบากนี้ต่อครอบครัวของเธอ”
ในเวลานั้น ลูวินสกีหลังจากที่เธอให้การจบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคลินตันแล้ว และเมื่อเธอถูกถามว่ามีอะไรที่จะกล่าวทิ้งท้าย อ้างอิงจาก CNN สื่อสหรัฐฯ ลูวินสกีตอบกลับมาว่า “ดิฉันเกลียดลินดา ทริปป์”