ซีเอ็นเอ็น - ปานามาใช้มาตรการใหม่ ซึ่งดูแล้วค่อนข้างแหกคอกไปเสียหน่อย สำหรับต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) นั่นก็คือกำหนดให้เพศชายและเพศหญิงต้องสลับวันกันออกจากที่พักอาศัย แถมยังอยู่ข้างนอกได้เพียงแค่ 2 ชั่วโมง
ในมาตรการซึ่งเริ่มบังคับใช้ในวันพุธ(1เม.ย.) ผู้หญิงจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเพื่อซื้อข้าวของที่จำเป็นในวันจันทร์,วันพุธและวันศุกร์ ส่วนผู้ชายในปานามาจะได้รับอนุญาตให้ออกมาเสี่ยงภายนอกที่พักอาศัยเพื่อทำธุระปะปังต่างๆในวันอังคาร,วันพฤหัสบดีและวันเสาร์
ยิ่งไปกว่านั้นในมาตรการนี้ยังให้เวลาผู้ชายและผู้หญิงออกนอกบ้านในวันที่กำหนดเพียงแค่ 2 ชั่วโมงในแต่ละวัน จากการเปิดเผยของรัฐบาล
อย่างไรก็ตามทุกคนต้องอยู่ภายในที่พักอาศัยในวันอาทิตย์ และมาตรการนี้จะบังคับใช้เป็นเวลาอย่างน้อย 15 วัน
คำสั่งนี้เป็นมาตรการเพิ่มเติมจากมาตรการกักกันโรคทั่วประเทศที่บังคับใช้ไปก่อนหน้านี้ โดยแนวคิดนี้ถูกคิดขึ้นมาเพื่อจำกัดจำนวนประชาชนที่ออกมายังสถานที่สาธารณะ เปิดทางให้ตำรวจทำงานได้ง่ายขึ้น
"ด้วยปริมาณประชาชนที่ออกมาวนเวียนอยู่นอกบ้านยังเยอะอยู่ แม้ปฏิบัติตามมาตการกักกันโรคทั่วประเทศ ทำให้รัฐบาลแห่งชาติต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิม" จากถ้อยแถลงบนทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีลอเรนติโน "นิโต" คอร์ติโซ แห่งปามานา
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ปานามาสั่งให้พลเมืองทุกคนอยู่แต่ในที่พักอาศัยยกเว้นแต่มีกรณีฉุกเฉินหรือซื้ออาหาร แต่พวกเขารู้สึกเป็นกังวลต่อจำนวนผู้คนที่ยังคงออกมานอกบ้าน ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้มาตรการเพิ่มเติม ด้วยการแยกเพศเพื่อจำกัดปริมาณผู้คนที่อยู่นอกที่พักอาศัย
จนถึงในวันพุธ(1เม.ย.) ปานามาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19แล้ว 1,075 คนและมีผู้เสียชีวิต 30 คน
นอกจากมาตรการกักโรคแล้ว ปานามายังได้ใช้มาตรการอันเข้มข้นอื่นๆ ซึ่งถือว่าเข้มงวดที่สุดชาติหนึ่งในภูมิภาค เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส
ประเทศแห่งนี้แบนการเดินทางทั้งภายในและระหว่างประเทศทั้งหมด ปิดสนามบินทุกแห่ง และหลังจากวันที่ 22 มีนาคมเป็นต้นมา ได้ห้ามทุกคนเดินทางเข้าประเทศ ไม่เว้นแม้กระทั่งพลเมืองปามานาเอง
ขณะเดียวกันก็มีการประกาศเคอร์ฟิวยามค่ำคืน ห้ามชาวปานามาออกนอกบ้านตั้งแต่ 21.00น จนถึง 05.00น. ในแต่ละวัน
