รอยเตอร์ - รัฐบาลสิงคโปร์ออกคำสั่งใหม่ให้ประชาชนอยู่ห่างกันในที่สาธารณะอย่างน้อยๆ 1 เมตร นับตั้งแต่วันศุกร์ (27 มี.ค.) เป็นต้นไป ส่วนหนึ่งมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และใครก็ห้ามที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบเว้นระยะห่างทางสังคมดังกล่าวอาจถึงขั้นถูกจำคุก
สิงคโปร์ได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติ สำหรับการใช้แนวทางละเอียดลออจัดการกับไวรัส ในนั้นรวมถึงใช้การสืบสวนของตำรวจ และกล้องวงจรปิดแกะรอยติดตามพวกผู้ต้องสงสัยเป็นพาหะนำโรค
ด้วยที่เป็นชาติที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ สิงคโปร์ได้ประกาศบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอันเข้มงวดต่างๆนาน อย่างเช่น ปิดบาร์, ห้ามรวมตัวนอกที่ทำงาน หรือโรงเรียนเกินกว่า 10 คนขึ้นไป รวมถึงสั่งงดกิจกรรมต่างๆ ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก
ล่าสุด สิงคโปร์ได้ยกระดับบังคับใช้กฎหมายควบคุมโรคติดต่อเข้มข้นยิ่งขึ้นอีก โดยกำหนดให้ใครก็ตามที่เจตนานั่งใกล้ผู้อื่นในสถานที่สาธารณะไม่ถึง 1 เมตร หรือยืนต่อแถวเว้นระยะห่างจากคนอื่นไม่ถึง 1 เมตร จะมีความผิดตามกฎหมาย
ผู้กระทำผิดจะมีโทษปรับเงินสูงสุด 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 2.2 แสนบาท) หรือจำคุก 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยกฎระเบียบนี้จะมีอายุจนถึงวัที่ 30 เมษายน และบังคับใช้กับทุกคนและทุกภาคธุรกิจ
สิงคโปร์มีชื่อเสียงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและกฎระเบียบอันเคร่งครัด ประชาชนมีสิทธิ์ถูกปรับเงินได้จากพฤติกรรมต่างๆ นานา ไล่ตั้งแต่ให้อาหารนกไปจนถึงลืมกดชักโครก
มีบางประะทศอย่าง เช่น อิตาลี, อังกฤษ และนิวซีแลนด์ เข้าสู่ภาวะล็อกดาวน์ประเทศโดยสิ้นเชิง แต่สิงคโปร์หลีกเลี่ยงมาตรการดังกล่าว ด้วยเจ้าหน้าที่บอกว่ามาตรการรุนแรงดังกล่าว จะมีความจำเป็นก็ต่อเมื่อชาวบ้านไม่จริงจังกับแนวทางเว้นระยะห่างทางสังคม
ในวันศุกร์ (27 มี.ค.) สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 49 คน ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 49 คน อย่างไรก็ตามจำนวนผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 2 คน