เอเอฟพี - อิตาลีในวันพุธ (18 มี.ค.) รายงานพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มอีก 475 คน ถือเป็นยอดตายอย่างเป็นการทางวันเดียว สูงสุดกว่าประเทศไหนๆ ในโลก นับตั้งแต่มันอุบัติขึ้นครั้งแรกในจนเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
ตัวเลขล่าสุดส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมในอิตาลีเพิ่มเป็น 2,978 คน เกินครึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกนอกประเทศจีน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในแดนมะกะโรนีอยู่ที่ 35,713 คน
สถิติเดิมของยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดในวันเดียวก่อนหน้านี้ ก็เป็นของอิตาลีเช่นกัน โดยเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (15 มี.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนในแดนมะกะโรนี 368 ราย
จากตัวเลขล่าสุดส่งผลให้ประเทศที่มีประชากร 60 ล้านคนแห่งนี้ มีอัตราผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 คิดเป็น 34.2% ของบรรดาเหยื่อทั้งหมดที่ถูกไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ปลิดชีวิตทั่วโลก
จำนวนผู้เสียชีวิตยังพุ่งทะยาน แม้ว่าประเทศแห่งนี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของการปิดประเทศ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เรียกร้องชาวอิตาลีจงศรัทธาและเข้มแข็งไว้ “สิ่งสำคัญคือ อย่ายอมแพ้” ซิลวิโอ บรูซาเฟอร์โร ผู้อำนวยการสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติอิตาลี แถลงข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ
“มันจะใช้เวลาหลายวันกว่าที่เราจะเห็นประโยชน์ของมาตรการควบคุมทั้งหลาย เราจำเป็นต้องคงมาตรการเหล่านี้ไว้เพื่อดูผลของมัน และเหนือสิ่งอื่นใดก็เพื่อปกป้องกลุ่มบุคคลที่อ่อนแอที่สุด”
มาตรการที่บังคับใช้เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ซึ่งปิดตายธุรกิจเกือบทั้งหมดของอิตาลีและห้ามการรวมตัวกันของประชาชน มีกำหนดหมดอายุลงในวันที่ 25 มีนาคม แต่มาตรการปิดโรงเรียนและอื่นๆ อย่างเช่น ห้ามกองเชียร์เข้าร่วมกิจกรรมกีฬา จะหมดอายุลงในวันที่ 3 เมษายน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงแย้มในวันพุธ (18 มี.ค.) ว่า อาจมีการขยายมาตรการปิดโรงเรียนออกไปอีก
อัตราการเสียชีวิตภายในอิตาลียังคงทรงตัว ด้วยราวๆ 2 ใน 3 ของเหยื่อ หรือ 1,959 คน อยู่ในแคว้นลอมบาร์ดี ทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของมิลาน เมืองหลวงทางการเงินและแฟชันของอิตาลี
ส่วนแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญาของโบโลญญา พบผู้เสียชีวิต 458 คน ตามมาด้วยแคว้นปีเยมอนเตของตูริน มีผู้เสียชีวิต 154 คน ขณะที่แคว้นลาซิโอของโรมา ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 32 คน และติดเชื้อ 724 ราย