รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สั่งระงับการเดินทางจากยุโรปเข้าสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 30 วัน เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งล่าสุด องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศยกระดับสถานการณ์เข้าสู่ภาวะระบาดใหญ่ทั่วโลก (pandemic)
หลังจากที่ระงับเที่ยวบินจากจีนแผ่นดินใหญ่มายังสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุด ทรัมป์ ได้ประกาศห้ามผู้เดินทางจากยุโรปเข้าประเทศเป็นเวลา 30 วัน โดยมีผลบังคับตั้งแต่เที่ยงคืนวันศุกร์ (13 มี.ค.) ยกเว้นเฉพาะผู้ที่มาจากสหราชอาณาจักร “และชาวอเมริกันซึ่งผ่านการตรวจคัดกรองอย่างเหมาะสมแล้ว”
รัฐบาล ทรัมป์ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการตอบสนองโควิด-19 ยังประกาศมาตรการอื่นๆ เพื่อช่วยค้ำจุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากวิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้
“เราได้ระดมศักยภาพของรัฐบาลกลางและภาคเอกชนเพื่อปกป้องชาวอเมริกัน” ทรัมป์ แถลงผ่านสื่อโทรทัศน์ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์จากห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว “นี่คือความพยายามอย่างจริงจังและครอบคลุมที่สุดเพื่อต่อสู้ไวรัสจากต่างแดนที่เกิดขึ้นในยุคสมัยใหม่”
อย่างไรก็ดี ผู้นำสหรัฐฯ ยังไม่ถึงขั้นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ (national emergency) แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในอเมริกาจะพุ่งสูงขึ้นทะลุหลัก 1,000 คนแล้วก็ตาม
ที่นครซีแอตเติลซึ่งเป็นจุดที่เชื้อแพร่ระบาดหนัก เขตการศึกษาขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐวอชิงตันได้ประกาศปิดการเรียนการสอนนาน 2 สัปดาห์ ขณะที่ เจย์ อินสลี ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน สั่งห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันเกินกว่า 250 คน ในเขตซีแอตเติล ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดที่พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 37 ราย
การระบาดของไวรัสยังส่งผลกระทบถึงเกมกีฬาในสหรัฐฯ โดยล่าสุดสมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติ (NBA) ได้ประกาศระงับฤดูกาลไปจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม หลังจากที่ รูดี โกแบร์ นักบาสฯ NBA จากทีมยูทาห์แจ๊ส ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง ทอม แฮงค์ (Tom Hanks) ได้ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาและภรรยา ริตา วิลสัน มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก ขณะเดินทางไปถ่ายทำภาพยนตร์ในออสเตรเลีย
หลายประเทศในยุโรปมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอิตาลี ซึ่งพบผู้ป่วยแล้วกว่า 10,000 คน จนทำให้รัฐบาลต้องประกาศให้ทุกเมืองทั่วประเทศเป็นพื้นที่สีแดง
เพื่อลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการคลัง ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งรูดในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ ได้ประกาศมาตรการหลายอย่าง เช่น สั่งให้กระทรวงการคลังชะลอการเก็บภาษีภาคธุรกิจและบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเตรียมมอบความช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่แรงงานที่เจ็บป่วย ถูกกักกันโรค หรือจำเป็นต้องดูแลผู้ป่วยไวรัส นอกจากนี้ ยังสั่งให้องค์กรบริหารธุรกิจขนาดย่อมในสหรัฐฯ (Small Business Administration) อุดหนุนเงินทุนและสภาพคล่องให้แก่บริษัทที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ