รอยเตอร์/เอพี/เอเจนซีส์ - เกิดเหตุโจมตีกลางกรุงคาบูล วันนี้ (8 มี.ค.) หลังกลุ่มมือปืนไม่ทราบฝ่ายยิงมีผู้เสียชีวิต 3 ราย รวมสมาชิกสภาจังหวัดโลการ์ (Logar) หลังวันศุกร์ (6 มี.ค.) ในพิธีที่มีแกนนำทางการเมืองระดับสูงเข้าร่วม กลุ่มก่อการร้าย IS ออกมาอ้างความรับผิดชอบส่ง 2 ติดอาวุธบุกโจมตีทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 32 คน บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่สหรัฐฯได้ออกปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มติดอาวุธตอลิบานเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมลงนามสันติภาพเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (8 มี.ค.) ว่า โฆษกตำรวจกรุงคาบูล เฟอร์ดูซ ฟารามาร์ซ (Ferdaus Faramar) กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “นาเซอร์ กาอิรัต (Naser Ghairat) สมาชิกสภาจังหวัดโลการ์ (Logar) และบอดี้การ์ดคุ้มกันเขาอีก 2 คนถูกสังหาร และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย”
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุโจมตีโดยกลุ่มมือปืนวันอาทิตย์ (8) ที่กรุงคาบูลยังไม่กลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ
ซึ่งการโจมตีวันนี้ (8) เกิดขึ้นหลังการโจมตีอุกอาจเมื่อวันศุกร์ (6) ล่าสุด ในพิธีที่ถูกจัดขึ้นภายในเมืองหลวงอัฟกานิสถาน ที่มีนักการเมืองแถวหน้าเข้าร่วม มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 32 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
เอพี รายงานว่า ตำรวจคาบูลสามารถสังหารสมาชิกติดอาวุธผู้ก่อเหตุ 2 คน ในขณะที่กลุ่มก่อการร้าย IS ออกมาประกาศแสดงความรับผิดชอบผ่านทางเว็บไซต์ของตัวเอง
โดยกลุ่มอัปสตาร์ทแห่งอัฟกานิสถาน (Afghanistan's upstart) ซึ่งเกี่ยวข้องกับ IS ได้ประกาศสงครามต่ออัฟกานิสถานซึ่งเป็นประเทศที่มีชนมุสลิมชีอะห์เป็นชนกลุ่มน้อย
ซึ่งคนจำนวนมากที่อยู่ร่วมในพิธีส่วนใหญ่เป็นมุสลิมชีอะห์ เป็นเพราะเป็นพิธีเฉลิมฉลองคล้ายวันครบรอบการเสียชีวิตของอดีตผู้นำอัฟกานิสถาน อับดุล อาลี มาซารี (Abdul Ali Mazari) ที่มาจากชนเผ่าฮาซาราซ (Hazaras) ซึ่งเป็นชนเผ่ามุสลิมชีอะห์เป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม ตอลีบานออกมาอ้างว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการโจมตีวันศุกร์ (6) นี้ โดยประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน อัชราฟ กานีในวันอาทิตย์ (8) อ้างอิงจากรอยเตอร์ได้สั่งให้ตัวแทนทำการสอบสวนเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้
ทั้งนี้ พบว่า เหตุเกิดเมื่อมือปืนจำนวน 2 คน ได้เปิดฉากกราดยิงภายในพิธีซึ่งถูกจัดขึ้นที่ Dasht-e-Barchi ใกล้กับกรุงคาบูล ส่งผลทำให้มีพลเรือนไม่ต่ำกว่า 32 คนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 180 คน แต่ในรายงานของเอพีอ้างอิงจากกระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถาน ชี้ว่า มีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 81 คน ส่วนกระทรวงสาธารณสุขอัฟกานิสถาน ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 58 คน แต่ยอดเสียชีวิตตรงกันทั้งหมด
พบว่า คาริม คาลิลี (Karim Khalili) ประธานสภาสูงสันติภาพของอัฟกานิสถาน กำลังแสดงสุนทรพจน์ในระหว่างที่เสียงปืนถูกยิงขึ้น แต่ทว่าคาลิลีไม่ได้รับบาดเจ็บ และในภายหลังยังได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ประณามเหตุโจมตีอุกอาจที่เกิดขึ้น
มีพยานในเหตุการณ์ไม่กี่คนชี้ว่า ท่ามกลางความโกลาหล เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของงานใช้ปืนยิงไปที่ฝูงชนพลเรือน ซึ่งหลังจากเปิดฉากยิงแล้ว คนร้าย 2 คน เข้าไปยึดอาคารอพาร์ตเมนต์ที่กำลังก่อสร้างไปแล้วครึ่งหนึ่ง และมีการปิดล้อมนานร่วม 5 ชั่วโมงกับทางเจ้าหน้าที่ ก่อนที่คนทั้งคู่จะถูกวิสามัญในท้ายที่สุด
เหตุรุนแรงมาจนถึงวันอาทิตย์ (8) เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯและตอลิบานได้มีการลงนามสัญญาสันติภาพในวันเสาร์ (29 ก.พ.) อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ (2) กลุ่มตอลิบานออกมาประกาศจะกลับมาออกปฏิบัติการโจมตีเจ้าหน้าที่อัฟกันอีกครั้ง และพบว่า ในวันพุธ (4) ที่จังหวัดเฮลมานด์ (Helmand) เป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯใช้การโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มติดอาวุธตอลิบาน
อัลญะซีเราะฮ์ รายงานว่า พันเอก ซอนนี เล็กเก็ตต์ (Sonny Leggett) โฆษกกองกำลังสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางทวิตเตอร์ในวันพุธ (4) ว่า “สหรัฐฯทำการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มติดอาวุธตอลิบานในวันที่ 4 มี.ค.ที่ Nahr-e Saraj จังหวัดเฮลมานด์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะโจมตีจุดตรวจของ ANDSF (กองกำลังความมั่นคงอัฟกัน)” พร้อมชี้ว่า เป็นการโจมตีที่ปกป้องตัวเอง
โดยเล็กเก็ตต์แถลงต่อว่า ผู้นำตอลิบานมีพันธสัญญาที่ต้องลดความรุนแรง โดยอ้างอิงไปถึงข้อตกลงสันติภาพ พร้อมชี้ว่า สหรัฐฯนั้นยึดมั่นต่อสันติภาพแต่เรียกร้องให้ทางฝ่ายกลุ่มติดอาวุธหยุดการโจมตีที่ไม่จำเป็นและขอให้ยึดมั่นต่อข้อตกลง
อ้างอิงจากโฆษกกองกำลังสหรัฐฯพบว่าในวันอังคาร (3) กลุ่มตอลิบานออกปฏิบัติการโจมตีจำนวน 43 ครั้ง ที่จุดตรวจในจังหวัดเฮลมานด์