เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – ล่าสุดกระทสวงมหาดไทยตุรกีส่งกองกำลังตำรวจเติร์กร่วม 1,000 นายวันี้(5 มี.ค)เพื่อป้องกันไม่ให้กรีซผลักดันกลุ่มผู้อพยพกลับเข้าประเทศ ท่ามกลางเอเธนส์มีแผนที่จะเนรเทศผู้อพยพที่เดินทางเข้ากรีซหลังวันที่ 1 มี.ค
เอเอฟพีรายงานวันนี้(5 มี.ค)ว่า รัฐมนตรีมหาดไทยตุรกี ซูเลย์มาน ซอยลู (Suleyman Soylu) กล่าวกับนักข่าวระหว่างการเดินทางไปเยี่ยมจังหวัดเอดีร์แน (Edirne)ว่า “ ตำรวจหน่วยพิเศษ 1 พันนายจะถูกส่งมาที่นี่ในเช้านี้ที่แม่น้ำเมริค(Meric River)บริเวณพรมแดน มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบมือเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อพยพถูกผลักดันกลับเข้ามา
ทั้งนี้แม่น้ำเมริครู้จักในชื่อแม่น้ำเอฟรอส( Evros)ในกรีซ เอเอฟพี
ซึ่งทางซอยลูได้ออกมากล่าวหากรีซปฎิบัติต่อผู้อพยพอย่างไม่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าทางตุรกีจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น
เอเอฟพีชี้ว่า ตุรกียังกล่าวหาว่าฝ่ายกรีซได้ใช้กระสุนจริงกับผู้อพยพ โดยกล่าวว่า มีผู้อพยพ 3 คนเสียชีวิตแต่ฝ่ายเอเธนส์ออกมาปฎิเสธ โดยชี้ว่า “เป็นข่าวปลอม”
อย่างไรก็ตามเว็บไซต์แนวสอบสวน เบลลิงแคท( Bellingcat) ออกมาประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่ตำรวจปราบจลาจลกรีซอาจใช้แก๊สน้ำตาที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต ด้านรัฐบาลเอธนส์ออกมาแถลงว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมพรมแดนกรีซประสบความสำเร็จป้องกันผู้อพยพเกือบ 7,000 คนข้ามพรมแดนเข้ามาภายใน 24 ชั่วโมงล่าสุด และเกือบ 35,000 คนในรอบ 5 วัน
ทั้งนี้ 1 วันก่อนหน้า รัฐมนตรีกระทรวงการโยกย้ายกรีซ โนติซ มิตาราคิ(Notis Mitarachi) ออกมาเปิดเผยว่า เอเธนส์จะทำการเคลื่อนย้ายกลุ่มผู้อพยพที่เดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายหลังจากวันที่ 1 มี.คไปยังเมืองเซอร์เรส( Serres)ที่อยู่ทางเหนือก่อนที่จะเนรเทศกลับประเทศบ้านเกิดคนเหล่านี้ต่อไป อ้างอิงการรายงานจากสื่อกรีซซิตี้ไทม์ส