รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ออกกฎบังคับให้สำนักงานของสื่อรัฐบาลจีนในอเมริกาต้องลดจำนวนพนักงานชาวจีนลง เพื่อเป็นการตอบโต้ที่ปักกิ่งใช้นโยบาย “ข่มขู่และคุกคามนักหนังสือพิมพ์” มานาน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อ้างว่ารัฐบาลจีนคุกคามเสรีภาพในการแสดงออกยิ่งกว่าที่เคยเป็นเมื่อ 10 ปีก่อน และยังเพิ่มมาตรการเล่นงานสื่อที่พยายามเสนอข้อมูลอย่างเป็นอิสระ ไม่ต่างอะไรกับสหภาพโซเวียตในยุคสงครามเย็น
ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. เป็นต้นไป วอชิงตันจะจำกัดจำนวนพนักงานจีนในสหรัฐฯ ของสำนักข่าวซินหวา, สถานีโทรทัศน์ ไชน่า โกลบอล เทเลวิชัน เน็ตเวิร์ค, สถานีวิทยุ ไชน่า เรดิโอ อินเทอร์เนชันแนล และบริษัท ไชน่า เดลี ดิสทริบิวชัน คอร์ป จากจำนวน 160 คนในปัจจุบันให้เหลือเพียงไม่เกิน 100 คน
เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การสหประชาชาติออกมาประท้วงคำสั่งของสหรัฐฯ ว่า “ไม่เหมาะสม”
การตัดสินของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่ผู้สื่อข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัลในกรุงปักกิ่ง 3 คนถูกรัฐบาลจีนเพิกถอนวีซ่า เนื่องจากไม่ยอมขออภัยกรณีพาดหัวข่าวดูหมิ่นจีนว่าเป็น “คนป่วยตัวจริงของเอเชีย” (Real Sick Man of Asia)
ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าววอลล์สตรีทอีกคนหนึ่งก็ถูกบีบให้เดินทางออกจากจีนในปีที่แล้วหลังไม่ได้รับอนุมัติต่อวีซ่า
“ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ใช้มาตรการสอดแนมและข่มขู่คุกคามสื่อมวลชนอเมริกันและต่างชาติที่ทำงานในจีนหนักขึ้นเรื่อยๆ” ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า คำสั่งล่าสุดไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนักข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัล หรือเนื้อหาที่สื่อรัฐบาลจีนผลิตออกมา
“เราเรียกร้องมานานหลายปีแล้วให้จีนปรับปรุงการปฏิบัติต่อสื่อมวลชน ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่การตอบโต้สำหรับกรณีใดกรณีหนึ่ง” เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว แต่ก็ยอมรับว่าการขับไล่ผู้สื่อข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัลเป็นตัวอย่างของการคุกคามสื่อที่ “เลวร้ายอย่างมหันต์”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่านี่ไม่ใช่การขับไล่พลเมืองจีนโดยตรง ทว่าพนักงานจีนซึ่งถือวีซ่าที่กำหนดเงื่อนไขว่าต้องได้รับอนุญาตทำงานในสหรัฐฯ อาจจำเป็นต้องเดินทางออกจากอเมริกาในที่สุด
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ประกาศให้สำนักงานของสื่อจีน 5 แห่ง รวมถึง 4 แห่งที่กล่าวไปข้างต้น มีสถานะเสมือน “สถานทูตต่างชาติ” และจำเป็นต้องยื่นขอจดทะเบียนพนักงานและทรัพย์สินต่อกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ