รอยเตอร์ - ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ (KCDC) ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ‘โควิด-19’ เพิ่มขึ้น 334 รายในวันนี้ (27 ก.พ.) ส่งผลให้ยอดรวมทั้งประเทศพุ่งไปอยู่ที่ 1,595 ราย ขณะที่สหรัฐฯ ยกระดับคำเตือนการเดินทางไปยังแดนโสมขาว และเลื่อนภารกิจซ้อมรบร่วมประจำปีกับโซลออกไปก่อน
ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่กว่า 300 คนต่อวันถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เกาหลีใต้พบผู้ป่วยรายแรกเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นเป็น 13 ราย
ผู้ติดเชื้อใหม่ 307 รายอาศัยอยู่ในเมืองแทกู (Daegu) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์คริสต์ลัทธิชินชอนจี (Shincheonji) ต้นตอการแพร่ระบาดใหญ่ในเกาหลีใต้
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยกระดับคำเตือนการเดินทางไปยังแดสโสมขาว โดยขอให้พลเมืองอเมริกัน “ทบทวนแผนการเดินทาง”
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เชื่อกันว่าแพร่ระบาดจากตลาดค้าสัตว์ป่าแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นของจีนทำให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วราวๆ 80,000 คน และมีผู้ป่วยเสียชีวิตกว่า 2,700 คน ส่วนมากอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่
กองทัพสหรัฐฯ ยืนยันวานนี้ (26) ว่ามีทหารวัย 23 ปีติดไวรัสโควิด-19 ที่แคมป์แคโรลล์ (Camp Carroll) ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแทกูเพียง 20 กิโลเมตร ขณะที่กองทัพเกาหลีใต้ก็พบทหารติดไวรัสอย่างน้อย 21 นาย และมีคำสั่งห้ามทหารเดินทางออกจากค่ายเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด
สหรัฐฯ ส่งทหาร 28,500 นายเข้าไปผลัดเปลี่ยนประจำการในเกาหลีใต้ ซึ่งในทางเทคนิคถือว่ายังอยู่ในภาวะสงครามกับเกาหลีเหนือ
กองกำลังร่วมสหรัฐฯ-เกาหลี (Combined Forces Command) ได้ออกแถลงการณ์เลื่อนปฏิบัติการฝึกร่วมออกไปก่อน “จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม” โดยเป็นไปตามคำขอของประธานเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้
ขณะเดียวกัน KCDC ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานต้อนรับ ‘โคเรียนแอร์’ ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 โดยระบุว่าเธอเคยให้บริการผู้โดยสารบนเที่ยวบิน KE958 ที่เดินทางจากอิสราเอลมายังสนามบินอินชอนเมื่อวันที่ 15-16 ก.พ. ซึ่งผู้โดยสารส่วนหนึ่งเป็นกรุ๊ปทัวร์เกาหลีที่ติดเชื้อไวรัส 31 ราย
ล่าสุด มีรายงานจากสำนักข่าวยอนฮัปและสื่ออื่นๆ วันนี้ (27) ว่า เธอยังเคยให้บริการบนเที่ยวบิน KE017 และ KE012 ซึ่งเป็นเส้นทางไปกลับ โซล-ลอสแองเจลิส ระหว่างวันที่ 19 และ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา และขณะนี้ลูกเรือราว 30 คนที่ร่วมเที่ยวบินเดียวกันถูกสั่งกักโรคเป็นเวลา 14 วัน
