เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนชี้ ผู้ป่วยติดเชื้อที่ยังไม่แสดงอาการนั้นสามารถแพร่เชื้อได้ และผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากสมควรที่จะถูกกักกัน ล่าสุดทารกแรกคลอดในเมืองอู่ฮั่นที่ติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าผ่านไป 30 ชั่วโมงหลังคลอดมีอาการคงที่ กลายเป็นเคสร้างความวิตกถึงการติดเชื้อจากในครรภ์
หนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์รายงานวันนี้(5 ก.พ)ว่า มีรายงานว่าทารกแรกคลอดในเมืองอู่อั่นกลายเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหลังจากคลอดออกมาได้เพียงแค่ 30 ชั่วโมง สร้างความวิตกถึงความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการติดเชื้อในครรภ์มารดา
อ้างอิงจากแหล่งข่าวในโรงพยาบาลเด็กเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย สถานีโทรทัศน์ทางการจีน CCTV รายงานว่า พบมีทารก 2 รายมีผลการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเป็นบวก ซึ่งทารกที่มีอายุน้อยสุดอยู่แค่ 30 ชั่วโมงเท่านั้น
“มารดาของทารกแรกคลอดเป็นผู้ป่วยโรคไวรัสโคโรน่า ในเวลานี้สัญญาณชีพของทารกคงที่”
เซ่ง หลิงกง(Zeng Lingkong) แพทย์อาวุโสประจำแผนกแรกคลอดกล่าวว่า เคสนี้เป็นการส่งสัญญาณว่า “เราสมควรต้องวิตกในวิธีการติดเชื้อใหม่ของโคโรน่าไวรัส”
ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ถึงการติดเชื้อในครรภ์จากมารดาสู่บุตร และถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
เซาท์มอร์นิงไชน่าโพสต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนชี้ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อที่ยังไม่แสดงอาการนั้นสามารถแพร่เชื้อได้ และผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากสมควรที่จะถูกกักกัน
โดย หลี่ ซิงหวัง (Li Xingwang) หัวหน้าแผนกโรคติดเชื้อประจำโรงพยาบาลปักกิ่ง ดิตัน (Beijing Ditan Hospital) ให้ความเห็นว่า ผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการส่วนมากนั้น “เกี่ยวข้อง” และ “รับเชื้อ” จากผู้ป่วยที่แสดงอาการ
“กลุ่ม(พาหะ) เหล่านี้มีเชื้อไวรัสและสามารถแพร่เชื้อได้ จำนวนไวรัสนั้นสัมพันธ์กับว่ามีอาการป่วยมากน้อยเพียงใด ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสจำนวนน้อยจะมีความสามารถในการแพร่นั้นต่ำลง”
ในคำแนะนำในวิธีการรักษาและการวินิจฉัยใหม่ที่ออกมาจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (National Health Commission)ซึ่งออกมาในวันพุธ(5) กล่าวว่า ในกลุ่มคนที่มีอาการไม่มากนักเป็นต้นว่า มีไข้ อ่อนเพลีย และไอ แต่ไม่มีการติดเชื้อในปอด สมควรที่จะต้องถูกกักกันโรคเพื่อหยุดการติดเชื้อเพิ่ม
นอกจากนี้ในคำแนะนำยังกล่าวอีกว่า การติดเชื้อระบบทางเดินอาหารและการติดเชื้อผ่านทางอากาศเป็นอีกหนทางหนึ่งของการแพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรน่าได้หลังพบร่องรอยของไวรัสในอุจจาระผู้ป่วย
อย่างไรก็ตามหลี่กล่าวว่า การติดเชื้อ 2 ช่องทางนี้ยังถือว่าเป็นความเป็นไปได้ที่ยังคงต้องได้รับการยืนยันต่อไป