เอเอฟพี – จำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุกำลังแรงลูกหนึ่งที่พัดเข้าตอนกลางของฟิลิปปินส์เมื่อช่วงคริสมาสต์เพิ่มขึ้นเป็น 50 ราย ทางการ ระบุ ทำให้มันกลายเป็นพายุที่คร่าชีวิตมากที่สุดในปี 2019
ลมรุนแรงและฝนตกหนักจากไต้ฝุ่นฟานทองทำลายบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์หลายหลังในเกาะวิสายาส์ทางตอนกลาง ส่งผลกระทบต่อประชากรกว่า 2 ล้านคน
ประชาชนอย่างน้อย 80,000 คนยังคงอยู่ในที่หลบภัยฉุกเฉินและอาจต้องอยู่ต่อไปจนถึงปีใหม่ เนื่องจากของเขตของการทำลายล้าง
“เราเศร้าใจคนในประเทศของเราบางส่วนยังต้องอยู่ในศูนย์อพยพ แต่เราทำให้พวกเขาวางใจว่า พวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือจนกว่าพวกเขาจะสามารถลุกยืนอีกครั้งได้” มาร์ก ทิลบาล โฆษกหน่วยงานภัยพิบัติแห่งชาติ บอกเอเอฟพี
ยังคงมีผู้สูญหาย 5 คนหลังจากพายุลูกนี้ ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย 143 คน ยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจาก 41 คนเมื่อวันอาทิตย์ (29) รวมถึงทหารเรือ 3 คนที่เสียชีวิตหลังจากเรือของพวกเขาล่ม ตำรวจคนหนึ่งที่ถูกไฟฟ้าช๊อตเพราะเสาไฟฟ้าโค่น และชายคนหนึ่งที่ถูกต้นไม้ล้มทับ
ไต้ฝุ่นฟานทองหรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า เออร์ซูลา เป็นไซโคลนลูกที่ 12 ในปีนี้ที่พัดเข้าแดนตากาล็อก
พายุหลายลูกพัดทำลายพื้นที่เพาะปลูก บ้านเรือน และโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้คนหลายล้านมีปัญหาความยากจนอย่างต่อเนื่อง
