เอเอฟพี - ไต้ฝุ่นพันฝน (Typhoon Phanfone) เคลื่อนตัวเข้าซัดถล่มหมู่เกาะตอนกลางของฟิลิปปินส์ในวันคริสต์มาส ป่วนบรรยากาศแห่งความสุขในช่วงวันหยุดยาวของชาวคริสต์ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ในแดนตากาล็อก
อิทธิพลของไต้ฝุ่นพันฝนซึ่งแผลงฤทธิ์ต่อเนื่องเป็นวันที่สองส่งผลให้เที่ยวบินถูกยกเลิกเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประชาชนบางส่วนต้องอพยพไปอยู่ตามศูนย์พักพิง ล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ไต้ฝุ่นลูกนี้แม้เริ่มอ่อนกำลังลง แต่มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนทับเส้นทางเดิมของซุปเปอร์ไต้ฝุ่น ‘ไห่เยี่ยน’ ซึ่งเป็นไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงสุดเท่าที่เคยซัดถล่มฟิลิปปินส์ และได้คร่าชีวิตหรือทำให้มีผู้สูญหายรวมกว่า 7,300 คนในปี 2013
เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนฟิลิปปินส์ระบุว่ามีชาวบ้านกว่า 10,000 คนหลบไปอาศัยอยู่ตามโรงเรียน โรงยิมเนเซียม และศูนย์ราชการต่างๆ ที่ถูกแปรสภาพเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวอย่างรีบร้อนหลังจากพายุไต้ฝุ่นพัดขึ้นฝั่งเมื่อวานนี้ (24)
สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่าไต้ฝุ่นพันฝนได้ทวีกำลังขึ้นเล็กน้อยเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แรงพอที่จะทำให้ต้นไม้เล็กๆ หักโค่น หรือซัดทำลายบ้านเรือนที่ปลูกสร้างด้วยวัสดุที่ไม่แข็งแรง
หมู่เกาะต่างๆ ซึ่งอยู่ในเส้นทางของพายุคาดว่าจะเผชิญกับกระแสลมแรงและพายุฝนซัดกระหน่ำ ก่อนที่ไต้ฝุ่นลูกนี้จะเริ่มเคลื่อนตัวออกสู่ทะเลจีนในเช้าวันพฤหัสบดี (26)
ยามฝั่งฟิลิปปินส์รายงานว่า ผู้โดยสารกว่า 25,000 คนไม่สามารถกลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวในคืนวันคริสต์มาสอีฟ และยังคงตกค้างอยู่ตามท่าเรือต่างๆ ซึ่งถูกปิดให้บริการจนถึงวันนี้ (25) ขณะที่สายการบินต่างๆ ก็ประกาศยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศหลายสิบเที่ยว
เนื่องจากเป็นผืนแผ่นดินใหญ่แห่งแรกที่อยู่ในเส้นทางของพายุที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก หมู่เกาะฟิลิปปินส์จึงต้องเผชิญกับพายุโซนร้อนและไต้ฝุ่นที่รุนแรงปีละไม่ต่ำกว่า 20 ลูก ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังทำลายบ้านเรือน พืชผลทางการเกษตร และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชาวฟิลิปปินส์นับล้านติดอยู่ในวงจรความยากจนซ้ำซาก
ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เผยแพร่งานวิจัยเมื่อเดือน ก.ค. ซึ่งระบุว่า พายุที่เกิดขึ้นเป็นประจำจะทำให้ผลิตผล (output) ในระบบเศรษฐกิจฟิลิปปินส์หายไปราว 1% ส่วนพายุซึ่งมีอำนาจทำลายล้างสูงจะทำให้ผลิตผลสูญหายไปเกือบ 3%