เอเอฟพี - กลุ่มติดอาวุธตอลิบานออกมาประกาศอ้างผลงานเหตุโจมตีขบวนรถทหารในภาคเหนือของอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นเหตุให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
การสูญเสียชีวิตทหารอเมริกันในครั้งนี้คาดว่าจะทำให้โอกาสในการสงบศึกระหว่างสหรัฐฯ กับตอลิบานยิ่งเหลือน้อยลงไปอีก
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศเมื่อเดือน ก.ย. ว่าการเจรจากับตอลิบานนั้น “ตายสนิท” หลังเกิดเหตุระเบิดที่กรุงคาบูลซึ่งคร่าชีวิตทหารอเมริกันไป 1 นาย ทว่าหลังจากนั้นก็มีความพยายามฟื้นเจรจาที่กรุงโดฮา กระทั่งเมื่อต้นเดือนนี้ที่การพูดคุยต้องหยุดชะงักลงไปอีกหลังเกิดเหตุระเบิดที่ฐานทัพอากาศบาแกรมทางตอนเหนือของเมืองหลวงอัฟกัน
กองกำลังสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานยืนยันว่ามีทหาร 1 นายเสียชีวิตในเหตุโจมตี แต่ยังไม่เผยรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม
ล่าสุด ซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกตอลิบาน ได้ส่งข้อความผ่าน WhatsApp ยืนยันกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีว่า นักรบของกลุ่มได้ใช้ระเบิดถล่มยานพาหนะของทหารอเมริกันที่เขตชาร์ดารา (Char Dara) ในจังหวัดกุนดุซ เมื่อช่วงกลางดึกวันอาทิตย์ (22) ต่อเช้าวันนี้
ผลจากการโจมตีทำให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 1 นาย และยังมีทหารสหรัฐฯ และอัฟกานิสถานบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
กุนดุซเป็นจังหวัดทางภาคเหนือของอัฟกานิสถานซึ่งเกิดเหตุความไม่สงบมาแล้วหลายครั้ง และพวกตอลิบานก็เคยพยายามยึดเมืองเอกของจังหวัดแห่งนี้มาแล้ว
ในปีนี้มีทหารอเมริกันเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถานอย่างน้อย 20 นาย ซึ่งทำให้ปี 2019 กลายเป็นปีที่นองเลือดที่สุดสำหรับกองกำลังสหรัฐฯ นับตั้งแต่ประกาศยุติบทบาทแนวหน้าอย่างเป็นทางการไปเมื่อปี 2014 และสะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ความมั่นคงในหลายภูมิภาคของอัฟกานิสถานยังคงย่ำแย่
สหรัฐฯ สูญเสียกำลังพลไปราว 2,400 นาย ตั้งแต่นำกองกำลังนานาชาติบุกอัฟกานิสถานและโค่นรัฐบาลตอลิบานลงเมื่อเดือน ต.ค. ปี 2001
ปัจจุบันกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังคงทหารอเมริกันไว้ในอัฟกานิสถานระหว่าง 12,000-13,000 นาย ซึ่ง ทรัมป์ เปรยว่าอยากจะลดลงให้เหลือเพียง 8,600 นายหรือต่ำกว่านั้น เพื่อแสดงถึงความตั้งใจจริงที่จะปิดฉากสงครามนอกประเทศที่ยืดเยื้อมานานกว่า 18 ปี