เอเอฟพี - บริษัทพีเอสเอ ผู้ผลิตรถยนต์เปอโยต์ของฝรั่งเศสและคู่แข่งอย่าง เฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ (เอฟซีเอ) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอิตาลี-สหรัฐฯ เปิดเผยในวันพุธ (18 ธ.ค.) ว่าพวกเขาบรรลุเงื่อนไขต่างๆในการควบรวมกิจการมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ในการจัดตั้งผู้ผลิตยานยนต์ใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลก ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมแห่งนี้กำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว สำหรับเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์พลังงานสะอาดและยั่งยืนกว่าเดิม
“วันนี้ ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์และเปอโยต์ เอสเอ (Groupe PSA) ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกัน เปิดทางสำหรับควบรวมธุรกิจ 50/50 เพื่อเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ยานยนต์แบบดั้งเดิมที่มีกำลังผลิตมากเป็นอันดับ 4 ของโลกในแง่ของปริมาณและเป็นอันดับ 3 ของโลกในแง่ของรายได้” ถ้อยแถลงระบุ พร้อมบอกว่าพวกเขาไม่แผนปิดโรงงานไหนๆอันเนื่องจากการควบรวมกิจการครั้งนี้
ในการก้าวเข้าสู่อันดับ 4 ของโลก รองจากโฟล์คสวาเกน, เรโนลต์-นิสสัน-มิตซูบิชิ และโตโยต้า กลุ่มที่ควบรวมใหม่แห่งนี้จะมีพนักงานรวมมากกว่า 400,00 คน, มีรายได้รวมกันเกือบ 1.7 แสนล้านยูโร (ราว 5.7 ล้านล้านบาท) และมียอดจำหน่ายรวมกันปีละ 8.7 ล้านคัน แต่เชื่อว่าในอนาคตน่าจะมีกำลังการผลิตรถปีละ 14 ล้านคัน
แบรนด์ของพวกเขาจะมีรถยนต์หลายยี่ห้อ ในนั้นรวมถึง เฟียต, อัลฟาโรมิโอ,ไครสเลอร์, ซีตรอง, ดอดจ์, จี๊ป, แลนเซีย, มาเซราติ, โอเปิล, เปอโยต์ และวอกซ์ฮอลล์
พีเอสเอ และ เฟียต ไครสเลอร์ ระบุในถ้อยแถลงว่า “ความเป็นผู้นำ ทรัพยากรและขนาดของกลุ่มบริษัทใหม่นี้ จะยืนอยู่แถวหน้าของยุคใหม่แห่งยานยนต์แบบยั่งยืน พร้อมคาดว่าการควบรวมจะเสร็จสิ้นภายใน 12-15 เดือน”
“การควบรวมของเราคือโอกาสใหญ่หลวงที่นำพาเราสู่สถานะที่แข็งแกร่งขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ ในขณะที่เรากำลังหาทางเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านสู่โลกยานยนต์ที่สะอาด, ปลอดภัยและยั่งยืนขึ้น” คาร์ลอส ตาวาเรส ผู้บริหารจากพีเอสเอระบุในถ้อยแถลง
การควบรวมกิจการครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันในเบื้องต้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม จะช่วยลดต้นทุนได้ประมาณ 3,700 ล้านยูโรต่อปี
ไมค์ แมนลีย์ ซีอีโอของเฟียต ไครสเลอร์ มองการควบรวมกิจการว่า “เป็นการจับคู่ของ 2 บริษัทที่มีแบรนด์อันน่าทึ่ง และมีแรงงานที่เต็มไปด้วยความสามารถและเสียสละ” และจะปรากฏตัวขึ้นมาในฐานะคู่แข่งขันที่คล่องตัวและน่าเกรงขาม
กลุ่มควบรวมใหม่นี้ซึ่งยังไม่มีการตั้งชื่อ จะมีสำนักงานใหญ่ในเนเธอแลนด์และจะยังเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในปารีส, มิลาน และนิวยอร์ก โดยจะมี จอห์น อัลคานน์ ผู้บริหารของเฟียต ไครสเลอร์ เข้ามาทำหน้าที่ประธาน และ ตาวาเรส ของพีเอสเอเป็นซีอีโอ
