เอพี/เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เครื่องจักรขุดดินค้นหาผู้รอดชีวิตซึ่งติดอยู่ในอาคารแฟลตพักอาศัยหลายหลังที่ถล่มลงมาในวันอังคาร (26 พ.ย.) ภายหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีที่แอลเบเนียเมื่อตอนก่อนรุ่งสาง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 14 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 600 คน
แผ่นดินไหวความรุนแรงระดับ 6.4 แมกนิจูดคราวนี้ ยังส่งแรงสะเทือนให้รู้สึกกันทั่วทั้งตอนใต้ของแหลมบอลข่าน รวมทั้งเกิดอาฟเตอร์ช็อกติดตามมาอีกหลายสิบครั้ง โดยที่ 3 ครั้งวัดความรุนแรงเบื้องต้นได้ระหว่าง 5.1 ถึง 5.4
ในบอสเนีย ประเทศที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงแอลเบเนีย ได้เกิดธรณีสั่นไหวต่างหากออกไปครั้งหนึ่งซึ่งวัดความรุนแรงเบื้องต้นได้ 5.4 ที่บริเวณด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงซาราเจโว รวมทั้งเขย่าเมืองหลวงแห่งนี้ แต่แผ่นดินไหวที่บอสเนียนี้ดูเหมือนจะก่อความเสียหายเพียงเล็กน้อย และยังไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บล้มตาย
สำหรับแผ่นดินไหวในแอลเบเนีย ทำให้อาคารแฟลตพักอาศัยถล่มลงมาอย่างน้อย 3 หลัง ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังนอนหลับ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังทำงานเพื่อช่วยเหลือคนที่เชื่อกันว่าติดอยู่ในกองปรักหักพัง โดยที่ยังไม่อาจระบุได้แน่นอนในเวลานี้ว่าพวกเขาเหล่านี้มีจำนวนเท่าใด
นายกรัฐมนตรี เอดี รามา กล่าวปลอบโยนประชาชนว่า ในช่วงเวลาเช่นนี้จะต้องรักษาความมีสติไว้ คอยอยู่เคียงข้างกันเพื่อรับมือกับภาวะช็อกคราวนี้
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 600 คน บางคนมีอาการสาหัส
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯแถลงว่า แผ่นดินไหวขนาด 6.4 ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนเวลา 04.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นนิดเดียว (ตรงกับก่อนเวลา 10.00 น. ในเมืองไทย) โดยมีจุดเหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่บริเวณห่างจากเมืองหลวงติรานาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 30 กิโลเมตร และอยู่ในระดับความลึก 20 กิโลเมตร
กระทรวงกลาโหมแถลงว่า ได้ดึงเอาร่างผู้เสียชีวิต 7 คนออกมาจากกองปรักหักพังในเมืองดูร์เรส เมืองท่าสำคัญริมทะเลเอเดรียติกซึ่งตั้งอยู่ห่างไปทางตะวันตกของกรุงติรานา 33 กิโลเมตร และพบผู้เสียชีวิต 5 คนในอาคารแฟลตที่ถล่มลงมาในธูมาเน เมืองเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านเหนือขึ้นไปใกล้ๆ ดูร์เรส นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิต 1 คนในเมืองคูร์บิน ที่อยู่ห่างติรานาไปทางเหนือ 50 กิโลเมตร หลังจากชายวัย 50 ปีผู้นี้กระโดดออกมาจากบ้านด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่มีอีกคนหนึ่งเสียชีวิตบนถนนที่พังถล่มในเมืองเลซา บริเวณตอนเหนือของเมืองหลวง
“ดูร์เรส กับ ธูมาเน คือ 2 พื้นที่ซึ่งถูกเล่นงานอย่างเลวร้ายที่สุด โดยมีความเสียหายทางวัตถุอย่างมากมาย และ … มีชีวิตต้องสูญเสียไปอย่างน่าเศร้าใจ” รัฐมนตรีกลาโหม อัลตา ซาคคา กล่าวในคำแถลงออกอากาศทางทีวี “งานค้นหาและกู้ภัยกำลังดำเนินอยู่ในทุกๆ จุดที่มีอาคารพังถล่ม”
“แต่การปฏิบัติการเหล่านี้เป็นการปฏิบัติการที่ยากลำบากอย่างยิ่ง คุณต้องทำงานอย่างช้าๆ เพราะมีความเสี่ยงถูกที่จะเกิดการพังถล่มเพิ่มเติมขึ้นอีก ซึ่งเป็นอันตรายไม่เพียงต่อชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังต่อผู้ที่ติดอยู่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเองด้วย”
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นพากันเผยแพร่วิดีโอที่ให้เห็นเด็กชายผู้หนึ่งกำลังถูกดึงออกมาจากอาคารซึ่งพังถล่มหลังหนึ่งในเมืองดูร์เรส ภายหลังเครื่องจักรขุดดินได้เคลื่อนย้ายซีเมนต์แผ่นหนาที่แตกหักขวางทางออกไป ชาวบ้านก็ช่วยกันยกพวกท่อนคอนกรีตเสริมเหล็กที่เหลืออยู่
อีกหลายชั่วโมงต่อมา ในอีกเหตุการณ์หนึ่ง ภาพทีวีถ่ายทอดสดๆ ก็แสดงภาพผู้คนพากันส่งเสียงเชียร์ดังสนั่น เมื่อพบเด็กอีกคนหนึ่งยังรอดชีวิตอยู่ในอาคารที่ถล่มหลังหนึ่งในดูร์เรส ซึ่งก่อนหน้านั้นได้พบศพ 1 ศพที่นั่น
นายกรัฐมนตรีรามาแถลงว่า หน่วยงานรัฐบาลทุกๆ หน่วยต่างระวังเตรียมพร้อม และ “กำลังทำงานอย่างเต็มที่เพื่อรักษาชีวิต ณ จุดอันตรายต่างๆ ในดูร์เรสและธูมาเน” ขณะที่ทหารราว 400 คนกำลังจัดตั้งเต็นท์ที่พักชั่วคราวขึ้นในดูร์เรส และในเมืองฟูเชครูเจ ใกล้ๆ ธูมาเน เพื่อให้ผู้รอดชีวิตที่ต้องหนีออกจากบ้านซึ่งไม่ปลอดภัยได้พักอาศัย
รามากล่าวว่า บรรดาประเทศเพื่อนบ้าน, สหภาพยุโรป, และสหรัฐฯ ได้เสนอให้ความช่วยเหลือ โดยในช่วงสาย กรีซ, อิตาลี, โคโซโว, ตุรกี, มอนเตเนโกร, โรเมเนีย, และเซอร์เบีย ต่างกำลังจัดส่งหน่วยกู้ภัยมายังแอลเบเนีย
