เอเอฟพี/รอยเตอร์ - LVMH เจ้าของแบรนด์กระเป๋าหลุยส์วิตตอง (Louis Vuitton) ตกลงทุ่มเงิน 16,200 ล้านดอลลาร์เข้าซื้อ ทิฟฟานีแอนด์โค (Tiffany) ในการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของบริษัท ขณะที่ผู้ผลิตสินค้าหรูสัญชาติฝรั่งเศส เสี่ยงเดิมพันว่าพวกเขามีความสามารถพอที่จะฟื้นฟูผู้ผลิตเครื่องเพชรและอัญมณีชื่อดังสัญชาติอเมริกัน ด้วยการลงทุนในห้างร้านต่างๆ และคอลเลกชันใหม่ๆ
ข้อตกลง 135 ดอลลาร์ต่อหุ้นจะช่วยเกื้อหนุนแผนกเพชรพลอยและนาฬิกา อันเป็นธุรกิจเล็กที่สุดของ LVMH ซึ่งมีแบรนด์ บุลการี (Bulgari) และ แทก ฮอยเออร์ (TAG Heuer) อยู่ก่อนแล้ว และจะช่วยขยายขอบเขตของ LVMH เข้าสู่หนึ่งในภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตรวดเร็วที่สุดและยกระดับสถานะของพวกเขาในตลาดสหรัฐฯ
นอกจากนี้แล้วมันยังเปิดทางให้ LVMH ได้รับประโยชน์จากอุปสงค์สินค้าหรูต่างๆของกลุ่มลูกค้าที่มองว่าการซื้อของพวกเขาเป็นการลงทุน ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อเพราะความอยากเท่านั้น
"ลูกค้าเหล่านี้ ไม่เหมือนพวกที่สนใจแฟชัน พวกเขาสินใจในความเป็นถาวรของมันและซื้อเครื่องเพชรเพื่อเก็บไว้และตกทอดถึงคนอื่นได้" แบร์นาร์ด อาร์โนลต์ ซีอีโอของ LVMH กล่าว "เมื่อคุณซื้อชุดสวยๆใส่ คงมีไม่มากนักหรอกที่อีกหลายสิบปีต่อมา ชุดดังกล่าวยังคงดูร่วมสมัยอยู่"
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีความท้าทายต่างๆ นานารอให้ก้าวผ่านเช่นกัน ในนั้นรวมถึงรูปแบบการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและบรรดานักชอปปิ้งชาวจีนเริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯ และหันไปซื้อสินค้าบ้านเกิดมากขึ้น หนึ่งในผลกระทบทางอ้อมของสงครามการค้าระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน ซึ่งบั่นทอนธุรกิจของทิฟฟานี
ขณะเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตเครื่องเพชรและอัญมณีชื่อดังสัญชาติอเมริกันก็ยังอยู่ระหว่างโหมดพลิกฟื้นกิจการ ในความพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่และหันไปล่อใจบรรดานักช็อปปิ้งทางออนไลน์มากขึ้น
ข้อตกลงนี้มีขึ้นหลังจาก LVMH ใช้เวลานานนับเดือนในการเกี้ยวพาราสี ทิฟฟานี "มันคือแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ สัญลักษณ์ของอเมริกาจะกลายเป็นฝรั่งเศส" แอาร์โนลต์ บอกกับเอเอฟพี "พวกเขามีศักยภาพมากมายและมีประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง"
ทั้งสองบริษัทระบุในถ้อยแถลงว่า LVMH จะซื้อ ทิฟฟานี ในราคา 135 ดอลลาร์ต่อหุ้นในรูปแบบของเงินสด ในการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าราวๆ 14,700 ล้านยูโร หรือ 16,200 ล้านดอลาร์
ด้วย ทิฟฟานี ยังคงตามหลังบรรดาคู่แข่งสำคัญๆในแง่ของการเติบโตของยอดขายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงเป็นที่คาดหมายว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยให้ ทิฟฟานี ได้ประโยชน์จากศักยภาพด้านโปรโมชันและเครือข่ายระดับโลกอันกว้างของ LVMH