เดลีเมล์ - นายกเทศมนตรีหญิงรายหนึ่งในชิลี เลือกใช้วิธีใหม่ในการปฏิเสธตอบคำถามพวกผู้สื่อข่าว ด้วยการวิ่งหนีพวกเขาไปหน้าตาเฉย
พวกผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์นางเอฟลีน มัตเต วัย 65 ปี นายกเทศมนตรีเมืองโพรวิเดนเซีย ระหว่างที่เธอกำลังเดินอยู่บนถนนสายหนึ่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว แต่จู่ๆ เธอก็วิ่งหนี เดือดร้อนให้พวกผู้สื่อข่าวและตากล้องต้องวิ่งไล่ตาม ทว่าสุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเทศบาลเมืองโพรวิเดนเซีย ในแคว้นซันติอาโก ทางภาคกลางของประเทศ ในขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังเผชิญกับการประท้วงครั้งเลวร้ายตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนไหลบ่าลงสู่ท้องถนนเรียกร้องสิทธิที่เท่าเทียมกันในสังคมและสวัสดิการสังคมที่ดีกว่าเดิม
ในวิดีโอพบเห็น มัตเต ถูกห้อมล้อมด้วยผู้สื่อข่าว, ไมโครโฟนและตากล้อง จากนั้นจู่ๆ เธอก็วิ่งออกไป ท่ามกลางเสียงตะโกนของผู้สื่อข่าวคนหนึ่งว่า “เธอวิ่งหนี เธอไม่ยอมให้สัมภาษณ์”
อย่างไรก็ตาม พวกผู้สื่อข่าวไม่ปล่อยให้เธอหนีไปง่ายๆ พวกเขาได้วิ่งตามเธอไปและไล่ตามจนทัน พร้อมกับตั้งคำถามแบบวิ่งไปสัมภาษณ์ไปด้วยว่าสื่อกำลังปฏิบัติกับเธออย่างไม่ยุติธรรมหรือไม่ กระนั้นเธอก็ไม่ยอมชะลอฝีเท้า หนำซ้ำยังเร่งสปีดจ้ำอ้าวหนีต่อไปอีก
ต่อมานายกเทศมนตรีรายนี้ได้โพสต์คลิปลงบนเพจทวิตเตอร์ส่วนหนึ่ง พร้อมกับคำบรรยายภาพว่า “การออกกำลังกายตอนเช้าเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องดีเสมอ”
“เราจะมีชัยเหนือพวกก่อความเสียหายและทุบทำลายทรัพย์สิน และเรานำพาโพรวิเดนเซียกลับมายืนหยัดอีกครั้ง”
มัตเต เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแรงงานและสวัสดิการสังคมจนถึงปี 2013 ในรัฐบาลของประธานาธิบดีเซบาสเตีย พิเนรา และในปัจจุบันเธอกำลังนั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีโพรวิเดนเซีย โดยมีวาระดำรงตำแหน่งจากปี 2016 จนถึงปี 2020
การชุมนุมทั่วภาคกลางของชิลีมีจุดเริ่มต้นจากการประท้วงต่อต้านขึ้นราคารถไฟฟ้าในซันติอาโก ก่อนลุกลามบานปลายสู่การเรียกร้องสิทธิที่เท่าเทียมกันในสังคมและสวัสดิการสังคมที่ดีขึ้น