รอยเตอร์ - เส้นทางเดินรถไฟที่เชื่อมระหว่างรัฐยะโฮร์ ทางใต้ของมาเลเซียกับสิงคโปร์ จะกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง หลังจากได้มีการปรับลดต้นทุนของโครงการดังกล่าวลง 1 ใน 3 จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮาหมัด ในวันพฤหัสบดี(31ต.ค.) ยุติความไม่แน่นอนของโครงการที่ล่าช้าจากที่ตกลงกันไว้
ระบบขนส่งเชื่อมประเทศความเร็วสูง(The Rapid Transit System Link) ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมหนึ่งในพรมแดนระหว่าง 2 ชาติที่พลุกพล่านที่สุดในโลก สามารถขนส่งผู้โดยสารในแต่ละฟากได้สูงสุด 10,000 คนต่อชั่วโมง มากกว่าปริมาณสูงสุดที่บริการเดินรถไฟรองรับได้ในปัจจุบันกว่า 30 เท่า
มหาเธร์ บอกว่าโครงการนี้จะใช้งบประมาณ 3,160 ล้านริงกิต(ราว 22,800ล้านบาท) ลดลง 36% จากข้อเสนอเดิมซึ่งอยู่ที่ 4,930 ล้านริงกิต(ราว35,600ล้านบาท)
"เราจะสร้างเส้นทางเดินรถไฟนี้ มีการทำข้อตกลงกันแล้ว ครึ่งหนึ่งจะสร้างโดยสิงคโปร์ ส่วนอีกครึ่งเราจะเป็นคนสร้าง" มหาเธร์บอกกับผู้สื่อข่าว ณ ชายแดนมาเลเซีย-สิงคโปร์ "รายละเอียดต่างๆจะมีการหารือกับสิงคโปร์อีกครั้ง"
ด้านกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ระบุในถ้อยแถลงแสดงความยินดีกับการตัดสินใจของมาเลเซีย "ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังหารือเปลี่ยนแปลงโครงการ ซึ่งมาเลเซียยื่นข้อเสนอเพื่อลดต้นทุนของโครงการ การพูดคุยคงใช้เวลาสักพัก"
โครงการนี้ถูกระงับในเบื้องต้นในเดือนพฤษภาคม หลังจากนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ พบว่ามาเลเซียมีหนี้สินท่วมมากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมสั่งทบทวนโครงการต่างๆที่ตกลงภายใต้รัฐบาลชุดที่แล้ว ก่อนมีการเลื่อนโครงการดังกล่าวอีกรอบเมื่อเดือนที่แล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว สองชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตัดสินใจยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสิงคโปร์กับกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ซึ่งพวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะต้องใช้งบประมาณราว 17,000 ล้านดอลลาร์
บ่อยครั้งที่ความสัมพันธ์ระหว่างมาลเซียและสิงคโปร์ตกอยู่ในความตึงเครียด ขณะที่มหาเธร์เคยโวยวายใส่สิงคโปร์ต่อกรณีไม่เห็นด้วยในการสร้างสะพานถนนแห่งใหม่เชื่อมระหว่างสองประเทศ ซึ่งเขาเชื่อว่ามันจะเป็นทางออกของการแก้ปัญหาการจราจรแออัด
ทั้งนี้ประมาณการว่ามีประชาชนสัญจรโดยใช้ถนนหลวงสายหลักที่เชื่อมระหว่างรัฐยะโฮร์กับสิงคโปร์มากกว่า 300,000 คนในแต่ละวัน
ขณะเดียวสิงคโปร์ต้องพึ่งน้ำสะอาดจากมาเลเซียราวๆครึ่งหนึ่งที่พวกเขาใช้อุปโภคบริโภค และมหาเธร์เคยใช้การขู่ขึ้นราคาน้ำสะอาดเอาคืนสิงคโปร์มาแล้ว
"เรามีความตั้งใจยอมสละเงินของเราในการสนับสนุนสิงคโปร์ เพื่อพวกเขาจะสามารถหาซื้อน้ำสะอาดราคาถูกเพื่อตัวพวกเขาเอง แต่พอเราต้องการสร้างสะพานเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการจราจร พวกเขากลับปฏิเสธ ทำไมเราต้องเอื้ออารีกับสิงคโปร์ ในเมื่อพวกเขาไม่เอื้ออารีเรา"
