รอยเตอร์ - เกิดฝนตกหนักในวันศุกร์(25ต.ค.) ถล่มพื้นที่ต่างๆทางภาคตะวันออกของญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่งถูกอุทกภัยและลมแรงจากพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสเล่นงานเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 1 ศพ น้ำในแม่น้ำสายต่างๆทะลักท่วมและกระตุ้นให้มีคำสั่งอพยพชาวบ้านหลายแสนคน
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายในเหตุดินถล่มในจังหวัดชิบะ ทางตะวันออกของกรุงโตเกียวและยังมีคนอื่นๆสูญเสียอีก 2 คน
เจ้าหน้าที่เตือนว่ามีโอกาสที่จะเกิดดินถล่มและน้ำท่วมเพิ่มเติม โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างๆที่คันกันน้ำทั้งหลายยังไม่ได้รับการซ่อมแซม หลังได้รับความเสียหายจากอิทธิพลของพายุฮากิบิสที่ซัดถล่มตอนกลางและตะวันออกของญี่ปุ่น ด้วยห่าฝนและลมแรงเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา
ไต้ฝุ่นฮากิบิสคร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 82 ราย หลายสิบคนยังคงสูญหายและมากกว่า 300 คนได้รับบาดเจ็บ "กว่า 2 สัปดาห์แล้วนับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติจากไต้ฝุ่นฮากิบิส แต่ฝนยังคงตกลงมาเป็นระยะๆ ดังนั้นประชาชนจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง" นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ระบุในทวิตเตอร์
มีการประกาศคำสั่งอพยพชาวบ้านอย่างน้อย 80,000 คนในจังหวัดชิบะ พื้นที่ซึ่งระดับน้ำขึ้นสูงอย่างน่ากังวลโดยเฉพาะบริเวณใกล้กับริมตลิ่ง ทั้งนี้ขบวนรถไฟเกือบทั้งหมดในชิบะระงับให้บริการ ทำผู้เดินทางจำนวนมากติดค้างตามสถานีต่างๆ
นอกจากนี้แล้วรัฐบาลยังร้องขอให้ประชาชน 340,205 คนอพยพออกจากบ้านเรือนในจังหวัดฟูกุชิมะ สืบเนื่องจากความเสี่ยงในความเป็นไปได้ที่จะเกิดดินถล่มในหลายจุด
หลายพื้นที่ของจังหวัดชิบะต้องเผชิญกับฝนที่ตกลงมาหนักระดับ 86 มิลลิเมตร(3.4นิ้ว)ในชั่วโมงหนึ่งของเช้าวันศุกร์(25ต.ค.) พอๆกับฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งเดือนในบางพื้นที่ โดยพายุฝนครั้งนี้ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งที่ 3 ที่เล่นงานพื้นที่ดังกล่าวในระยะเวลาห่างกันเพียง 6 สัปดาห์ ตามหลังไต้ฝุ่นฟ้าใสในเดือนกันยายน จากนั้นก็ถูกถล่มด้วยพายุฮากิบิส
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นระบุด้วยว่านอกจากจังหวัดชิบะแล้ว ฝนยังตกลงมาในพื้นที่ของกรุงโตเกียวเกือบตลอดทั้งวันก่อนเคลื่อนไปทางเหนือ โดยจนถึงช่วงเย็นปริมาณฝนโดยรวมในพื้นที่รอบๆกรุงโตเกียวน่าจะแตะระดับ 200 ถึง 300 มิลลิเมตร(8-12นิ้ว) ทำให้เที่ยวบินบางเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่กรุงโตเกียวต้องเบี่ยงไปลงจอดที่อื่นสืบเนื่องจากฝนตกหนัก
ขณะเดียวกัน ไต้ฝุ่นบัวลอยซึ่งซัดถล่มหมู่เกาะโองาซาวาระ ทางใต้ของเกาะหลักญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดี(24ต.ค.) ยังคงรักษาความรุนแรงในระดับไต้ฝุ่น แต่เคลื่อนตัวออกจากแผ่นดินลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกแล้วและคาดหมายว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันหลังจากนี้ในวันศุกร์(25ต.ค.)
