เอเอฟพี - ศาลบังกลาเทศสั่งประหารชีวิตจำเลย 16 คนซึ่งร่วมกันเผาทั้งเป็นเด็กสาวคนหนึ่งที่ไม่ยอมถอนข้อกล่าวหาครูใหญ่ล่วงละเมิดทางเพศ ด้านกลุ่มสิทธิสตรีหวังการวินิจฉัยอย่างรวดเร็วและเฉียบขาดจะช่วยลดสถิติความรุนแรงทางเพศที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในประเทศนี้
คดีนี้สะท้อนสิ่งที่นักเคลื่อนไหวระบุว่า เป็นวัฒนธรรมการไม่เอาโทษผู้ก่อความรุนแรงทางเพศ ในประเทศมุสลิมทางเอเชียใต้ที่มีประชากร 168 ล้านคนแห่งนี้ รวมถึงกรณีการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามราว 20,000 แห่ง ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กชนบทยากจน
นุสรัต จาฮัน ราฟี ถูกเผาทั้งเป็นเมื่อวันที่ 6 เมษายน หลังจากร้องเรียนว่า ถูกครูใหญ่โรงเรียนสอนศาสนาในท้องถิ่นล่วงละเมิดทางเพศ
ทั้งนี้ ราฟีไปแจ้งความเรื่องดังกล่าวกับตำรวจช่วงปลายเดือนมีนาคม และคลิปที่หลุดออกมาเผยให้เห็นนายตำรวจลงบันทึกประจำวันการร้องเรียนของเธอว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่”
ในการตัดสินคดีฆาตกรรมราฟี ศาลในเมืองเฟนี ซึ่งอยู่ทางใต้ของประเทศ พบว่า ครูใหญ่ที่เป็น 1 ในบรรดาจำเลย สั่งฆ่าราฟีจากในคุกหลังถูกจับกุมจากข้อหาล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว และทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ได้รับโทษประหาร
ส่วนอีก 15 คนนั้นมีทั้งนักเคลื่อนไหวของพรรคสันนิบาตอวามี และนักเรียนในโรงเรียนสอนศาสนาแห่งนั้น ซึ่งรวมถึงนักเรียนหญิง 2 คนที่มีส่วนร่วมในการฆาตกรรมหรือช่วยดูต้นทาง
อัยการฮาเฟซ อาเหม็ด กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คำตัดสินนี้พิสูจน์ว่า ไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากความผิดในการฆ่าคนตายในบังกลาเทศ
ราฟีถูกหลอกให้ขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเมืองโซนากาซี และกลุ่มคนร้ายบังคับให้เธอถอนข้อกล่าวหากับตำรวจ แต่หลังจากปฏิเสธ ราฟีถูกมัด ราดด้วยน้ำมันก๊าดและจุดไฟเผา
เด็กสาวทรมานจากบาดแผลไฟไหม้ที่ครอบคลุมผิวหนังถึง 80% ของร่างกาย และเสียชีวิตในอีก 4 วันต่อมา
ตำรวจระบุว่า กลุ่มคนร้ายวางแผนให้ดูเหมือนเป็นการพยายามฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากราฟีกระเสือกกระสนหนีลงมาได้ทั้งที่ไฟคลอกทั่วร่าง
การเสียชีวิตของราฟีสร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วบังกลาเทศ และมีการประท้วงในกรุงธากาหลายวันเพื่อเรียกร้องให้ลงโทษฆาตกรเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง
คดีนี้กดดันให้นายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินา ต้องออกมาตรการเพิ่มการปกป้องผู้หญิง โดยรัฐบาลบังกลาเทศสั่งการให้โรงเรียนราว 27,000 แห่ง จัดตั้งคณะกรรมการป้องกันความรุนแรงทางเพศ
นักเคลื่อนไหวระบุว่า ผู้หญิงและเด็กที่รายงานความรุนแรงทางเพศในบังกลาเทศมักถูกตอบโต้ และน้อยมากที่มีการฟ้องร้องและชนะคดี
กรณีราฟีมีการเร่งรัดดำเนินคดี โดยศาลพิเศษที่ไต่สวนคดีความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กใช้เวลาไต่สวนเพียง 62 วัน
มาเลกา บานู หัวหน้ากลุ่มสิทธิสตรีแสดงความหวังว่า การตัดสินประหารชีวิตในคดีนี้จะส่งสัญญาณชัดเจนไปยังผู้กระทำผิดและผู้สมรู้ร่วมคิดก่อความรุนแรงทางเพศ รวมทั้งช่วยให้คดีลักษณะนี้ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในบังกลาเทศลดจำนวนลง
หัวหน้ากลุ่มมหิลา ปาริชาด ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิสตรีอีกกลุ่ม ยินดีกับการตัดสินคดีอย่างรวดเร็ว แต่สำทับว่า ยังต้องมีการดำเนินการอีกหลายอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า จะมีการลงโทษผู้ล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนอย่างจริงจังมากขึ้น
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกลุ่มมหิลา ปาริชาดระบุว่า ในจำนวนการรายงานความรุนแรงทางเพศ 731 กรณีเฉพาะช่วงครึ่งแรกปีนี้ ประกอบด้วยการข่มขืน 592 กรณี, การรุมโทรม 113 กรณี และเหยื่อ 26 คนถูกฆ่าตายหลังถูกล่วงละเมิดทางเพศ
นักวิจัย เรซอร์ เราะห์มาน เลนิน เผยว่า แต่ละปีมีผู้ต้องโทษประหารชีวิตเฉลี่ยมากกว่า 200 คนในบังกลาเทศ และจนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้มีนักโทษรอการประหารประมาณ 1,500 คน เนื่องจากมีการประหารชีวิตนักโทษปีละไม่ถึง 10 คน