เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(22 ต.ค) คนร้ายเป็นชายวัย 32 ปีมาพร้อมอาวุธปืนอูซีชิงรถพยาบาลฉุกเฉิน ก่อนที่จะตั้งใจขับขึ้นบนทางเท้าพุ่งชนรถเข็นที่มีเด็กทารกฝาแฝดวัย 7 เดือน รวมมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 5 ราย ก่อนที่จะเปิดฉากดวลปืนกับตำรวจออสโล คนร้ายถูกจับกุมได้สำเร็จ
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(22 ต.ค)ว่า คนร้ายเป็นชายวัย 32 ปีมีรายงานว่าอยู่ในกลุ่มการเมืองปีกขวานอร์เวย์ ได้ขับรถพยาบาลฉุกเฉินที่ชิงมาพุ่งเข้าชน และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 5 รายรวมทารกฝาแฝดวัย 7 เดือน 2 คนที่อยู่บนรถเข็นเด็กแบบคู่ในวันอังคาร(22)ที่กรุงออสโล
พยานในเหตุการณ์ให้การกับตำรวจนอร์เวย์ว่า ดูเหมือนคนร้ายขับขึ้นบนทางเท้าตั้งใจต้องการพุ่งชนคนแบบไม่เลือกหน้า
และคนร้ายถูกหยุดลงหลังจากตำรวจนอร์เวย์ระดมยิงใส่ตัวรถไม่ยั้งเพื่อต้องการให้ยางรถระเบิด คนร้ายถูกลากตัวออกมาจากรถก่อนที่จะกดลงพื้นและทำการจับกุมตัวในข้อหาพยายามฆ่า
ซึ่งภายในรถพยาบาลฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนกึ่งปืนกลอัตโนมัติ ปืนลูกซอง และสารเสพติดจำนวนมาก และนอกจากนี้ทางตำรวจยังได้จับกุมตัวหญิงวัย 25 ปีในความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ โดยตั้งข้อหามีอาวุธในความครอบครอง
สื่ออังกฤษชี้ว่า คนทั้งคู่เคยเป็นที่รู้จักของเจ้าหน้าที่มาก่อน ซึ่งชี้ว่าทั้งคู่เป็นสมาชิกการเมืองปีกขวานอร์เวย์ อ้างอิงจากเว็บไซต์ข่าวนอร์เวย์ VG
ทั้งนี้พบว่า หนึ่งในเด็กทารกถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในขณะที่ผู้บาดเจ็บอื่นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ซึ่งตำรวจนอร์เวย์ยืนยันว่าได้มีการยิงเกิดขึ้นเพื่อที่จะหยุดคนร้าย แต่ผู้ต้องหาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายได้ก่อนหน้าได้ขับรถของตัวเองเกิดอุบัติเหตุจนรถหงายท้องก่อนที่จะไปชิงรถพยาบาลฉุกเฉิน และเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ติดตามด้วย GPS
ด้านโฆษกโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยออสโลออกมายืนยันว่า มีรถพยาบาลจำนวน 2 คันของโรงพยาบาลเกี่ยวข้องในเหตุการณ์
“มี 1 คันถูกคนร้ายพร้อมปืนลูกซองชิงไป และอีกไม่กี่นาทีหลังจากนั้นมีรถพยาบาลของเราอีกคันพยายามที่จะหยุดรถที่ถูกชิงด้วยการขับพุ่งเข้าชน และหลังจากนั้นตำรวจเดินทางมาถึงและจับกุมคนร้ายที่เป็นชายได้สำเร็จ”
ทั้งนี้พบว่าตำรวจนอร์เวย์ยิงไปที่ยางรถและคนขับยิงสวนกลับมา พยานให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์นอร์เวย์ NRK และหลังจากนั้นรถได้พุ่งชนเข้ากับประตูรั้ว
รถพยาบาลที่เสียหายมีรูกระสุนถูกเจาะจำนวนไม่มากนั้นที่ประตูซ้ายหน้า ซึ่งโฆษกโรงพยาบาลกล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางโรงพยาบาลพยายามใช้ระบบ GPS เพื่อติดตามรถพยาบาลฉุกเฉินที่ถูกชิง
