รอยเตอร์ - รัสเซียและตุรกีบรรลุข้อตกลงวานนี้ (22 ต.ค.) ให้มีการส่งกองกำลังซีเรียและรัสเซียเข้าไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย เพื่อผลักดันนักรบเคิร์ด YPG และอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมดออกจากพื้นที่ชายแดน
หลังข้อตกลงถูกประกาศเพียงไม่กี่ชั่วโมง กระทรวงกลาโหมตุรกีก็ยืนยันว่าได้รับแจ้งจากสหรัฐฯ ว่ากองกำลังเคิร์ด “ถอนตัวอย่างสมบูรณ์” ออกมาจากพื้นที่ตอนเหนือของซีเรียที่อังการาต้องการจัดตั้งเป็นเขตปลอดภัย (safe zone) แล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมตุรกียังระบุด้วยว่าไม่จำเป็นจะต้องขยายปฏิบัติการทางทหารออกไปยังพื้นที่อื่นๆ อีก เท่ากับเป็นการยุติปฏิบัติการรุกรานซีเรียที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ท่ามกลางเสียงประณามจากหลายฝ่าย
ข้อตกลงระหว่างรัสเซียและตุรกีมีขึ้นตามหลังข้อตกลงหยุดยิงที่สหรัฐฯ เป็นโบรกเกอร์ ซึ่งสิ้นอายุลงเมื่อวันอังคาร (22) และยิ่งชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ในซีเรียพลิกผันไปอย่างรวดเร็ว หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สั่งถอนทหารอเมริกันออกจากพื้นที่ตอนเหนือของซีเรียเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และเปิดทางให้ทัพตุรกีเข้าไปบดขยี้พันธมิตรเคิร์ด
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียและประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกีได้จัดประชุมหารือที่เมืองโซชิ (Sochi) ริมทะเลดำ และบรรลุข้อตกลงให้ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียส่งกองกำลังไปคุมชายแดนตอนเหนือร่วมกับทหารรัสเซีย แทนที่ทหารอเมริกันซึ่งลาดตระเวนคุ้มกันพื้นที่แถบนี้ร่วมกับพวกเคิร์ด YPG มานานหลายปี
ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ กองกำลังป้องกันชายแดนซีเรียและสารวัตรทหารรัสเซียจะเริ่มอพยพชาวเคิร์ดออกจากพื้นที่ 30 กิโลเมตรนับจากชายแดนตุรกี-ซีเรียลงมาทางใต้ โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (23) และเมื่อผ่านไป 6 วัน ทหารซีเรียและรัสเซียก็จะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนร่วมในพื้นที่ส่วนหนึ่งของเขตเซฟโซนซึ่งกว้างประมาณ 10 กิโลเมตร
รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาประกาศสนับสนุนการจัดตั้งเขตปลอดภัยขึ้นในซีเรีย
“เราอาจเปิดโอกาสให้ประชาคมโลกได้จัดตั้งเขตปลอดภัยขึ้นระหว่างตุรกีและประชากรเคิร์ดในซีเรีย ซึ่งจะช่วยให้เกิดสันติภาพและความมั่นคง” เพนซ์ กล่าวในงานเลี้ยงของมูลนิธิ เฮอริเทจ ฟาวน์เดชัน ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
จิม เจฟฟรีย์ นักการทูตอาวุโสของสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการซีเรีย ออกมาปรามาสข้อตกลงโซชิว่าเลื่อนลอยและ “เต็มไปด้วยช่องโหว่” พร้อมตั้งคำถามว่ารัสเซียจะใช้วิธีการใดผลักดันชาวเคิร์ดให้ออกจากดินแดนที่พวกเขายึดครองอยู่
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของตุรกียืนยันว่า นี่คือข้อตกลงที่ “ยอดเยี่ยม” ซึ่งจะทำให้อังการาบรรลุเป้าหมายในการจัดตั้งเขตปลอดภัยขึ้นในซีเรีย โดยปราศจากอิทธิพลของพวกเคิร์ดที่ตุรกีถือว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายและเชื่อมโยงกับพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ที่ก่อความไม่สงบในตุรกีมานานหลายสิบปี
ข้อตกลงหยุดยิงที่สหรัฐฯ เป็นโบรกเกอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วครอบคลุมแค่พื้นที่ตอนกลางระหว่างเมืองเทลอับยาด (Tel Abyad) ไปจนถึงราสอัลอัยน์ (Ras al Ain) ทว่าข้อตกลงระหว่างรัสเซีย-ตุรกีนั้นจะกินพื้นที่ใหญ่กว่ากันถึง 3 เท่า หรือเกือบทั้งหมดของพื้นที่ที่ตุรกีต้องการสร้างเป็นเขตปลอดภัย
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงลอนดอนรายงานว่า ปฏิบัติการทางทหารของตุรกีในภาคเหนือซีเรียทำให้ประชากรราว 300,000 คนต้องอพยพหนีตาย และมีพลเรือนถูกสังหารไปอย่างน้อย 120 คน ส่วนฝ่ายนักรบเคิร์ดและกบฏซีเรียที่มีอังการาหนุนหลังต่างสูญเสียกำลังพลไป 259 คน และ 196 คนตามลำดับ
ข้อมูลจากฝั่งตุรกีระบุว่า มี ‘ผู้ก่อการร้าย’ เสียชีวิตไปทั้งสิ้น 765 คน ทว่าไม่มีพลเรือนตกเป็นเหยื่อ